x close

ท่านมุ้ย สร้าง พันท้ายนรสิงห์ ส่งฉายเกาหลี

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์
พันท้ายนรสิงห์


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ช่อง 3

          ในโอกาสครบรอบ 41 ปี ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทางสถานีได้ให้ ท่านมุ้ย หรือ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ จำนวน 24 ตอน เพื่อฉายในปี 2554 โดยมีกำหนดฉายประมาณเดือนมีนาคม 2554 นั้น

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงเปิดกล้องภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ที่โรงถ่ายภาพยนตร์บริษัท พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ ค่ายสุรสีห์ อ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี จากนั้นประทานสัมภาษณ์ว่า ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้เราสร้างขึ้นตามความประสงค์ของช่อง 3 ที่ต้องการสร้างภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ฉลองครบรอบ 41 ปีของสถานี ประเด็นใหม่ ๆ ของภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้ก็คือ เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยระบบดิจิตอลใช้เป็น 440 เค หมายถึงว่าความละเอียดจะสูงมากเลย เอามาเป็นหนังได้เลย

          "ตอนนี้ผมคุยกับ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ ว่าอยากจะทำเอาภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้ไปฉายที่เกาหลีใต้ เป็นหนังตัวแทนของไทยในระดับสากล เพราะที่ผ่านมาหนังเกาหลีแนวนี้มาฉายในบ้านเราเยอะแล้ว อยากแสดงแสนยานุภาพของเรา เลยจำเป็นต้องใช้กล้องดี ๆ ในการถ่ายทำ สำหรับเนื้อหาจะเกิดขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าเสือ แต่ของเราย้อนกลับไปถึงสมัยของพระเพทราชา เพราะฉะนั้น เราจะมีเรื่องราวมากกว่าจากพันท้ายฯ ทั่วไป คนดูจะได้รู้ประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ฯ มาจนถึงปลายสมัยของสมเด็จพระเจ้าเสือ เรียกว่าการพบเรื่องราวใหม่ ๆ ทำให้การถ่ายทำมีฉากที่สนุกมากขึ้น"

          สำหรับการคัดเลือกนักแสดงที่มาร่วมงานนั้น ท่านมุ้ย ตรัสว่า "ยากมาก โจทย์แรกคือเราต้องหานางเอกและเพื่อน ๆ นางเอกพระเอกก่อน เพราะต้องใช้เวลานานในการปรับตัวให้มาเป็นชาวนาชาวทุ่ง นอกจากนี้ เราพยายามเอาขนบธรรมเนียมไทยมาใส่ในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้มาก เช่น การต่อยมวยไทย เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ การทำไร่ไถนา คือทุกอย่างเราต้องฝึกให้นักแสดงทำให้ได้จริง ๆ เรื่องนี้เลยใช้เวลาในการคัดเลือกนักแสดงนานมาก ซึ่งก็มาลงตัว มัดหมี่-พิมพ์ดาว พานิชสมัย สำหรับพระเอกก็มาลงตัวที่ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ในเรื่องของความเหมาะสมป๋อนี่เขามีความตั้งใจและความพยายามสูงมาก แต่ติดอย่างหนึ่งคือรูปร่างป๋อจริง ๆ เขาค่อนข้างบึกบึนก็ต้องเอายางออกจากพุงก่อน เพราะยังมีอยู่นิดหน่อย"

          ขณะที่ ป๋อ ณัฐวุฒิ กล่าวว่า "ผมเองไม่เคยได้ร่วมงานกับท่านมุ้ยเลย ครั้งนี้ผมเลยมาด้วยความดีใจมากกว่าหนักใจ และรู้สึกเป็นเกียรติในชีวิตมากที่ได้ร่วมงานกับท่าน เรื่องนี้ผมต้องทำการบ้านเยอะ อย่างเรื่องภาษาค่อนข้างจะงงมาก นาน ๆ ผมจะเล่นแนวนี้สักทีก็ต้องทำความเข้าใจวิธีการพูดใหม่"

          ทางด้าน มัดหมี่ พิมพ์ดาว กล่าวว่า "เป็นงานแสดงครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้นมาก มัดหมี่ต้องทำการบ้านเยอะเหมือนกันเพราะตัวนวลในเรื่องเป็นแม่เพลงด้วย ก็ต้องมีร้องเพลงเกี่ยวข้าว เพลงแห่เรือ เพลงฉ่อย เพลงไทยเดิม ยากมากเลยค่ะ แต่มัดหมี่ว่าท้าทายดี"

          ติดตามชม ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ที่กำกับฯ โดย ท่านมุ้ย หรือ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2554 ทางไทยทีวีสีช่อง 3




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
และ




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ท่านมุ้ย สร้าง พันท้ายนรสิงห์ ส่งฉายเกาหลี อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2553 เวลา 20:24:31 2,538 อ่าน
TOP