ละคร เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนจบ โดนชาวเน็ตติง นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับโรคเอดส์ไม่เหมาะสม ดูร้ายแรงเกินจริง สร้างทัศนคติเชิงลบ
เรียกได้ว่าเป็นละครแห่งปีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงมาตั้งแต่ยังไม่ทันออนแอร์จนกระทั่งตอนสุดท้ายเลยทีเดียว สำหรับละคร เพื่อนรักเพื่อนริษยา ของค่ายโพลีพลัส ที่ออกอากาศทางช่อง 3 และนำเสนอตอนจบไปเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม 2558
โดยในตอนจบของเรื่อง มีฉากที่ถูกชาวเน็ตติติงอยู่ไม่น้อย คือจุดจบของ อุไร (รับบทโดย คริส หอวัง) ที่ติดเชื้อ HIV จากการมีเพศสัมพันธ์ และลงเอยด้วยการเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย ก่อนจะจบชีวิตลงในห้องผู้ป่วยวิกฤต ในขณะที่ นางฟ้า (นุ่น วรนุช) จิ๋ว (ลีเดีย ศรัณย์รัชต์) อาทิตย์ (ก้อง กรุณ) และเป๋า (เป๋า วฤธ) ซึ่งมาทำบุญที่นั่นพอดี ได้พบและร่วมกันแผ่เมตตาก่อนอุไรจะเสียชีวิตลง
ทั้งนี้ มีชาวเน็ตจำนวนมากที่ได้ชมฉากจบของ เพื่อนรักเพื่อนริษยา และรู้สึกขัดใจเกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องโรคเอดส์ จนมีคนตั้งกระทู้ถึงเรื่องดังกล่าว และฝากถึงผู้จัดละคร ดังที่ คุณ สมาชิกหมายเลข 2699582 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ระบุว่า สังคมไทยถูกปลูกฝังมานานเรื่องโรคเอดส์ ว่าเป็นโรคร้ายแรง สกปรก น่ารังเกียจ ผู้ป่วยถูกผลักออกจากสังคม แต่ในปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไปแล้ว คนที่ติดเชื้อ HIV ยอมรับตัวเอง ยอมรับการรักษา และปรับทัศนคติว่า สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ซึ่งก็ใช้เวลายาวนานกว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่ในละครกลับนำเสนอคนที่ติดเอดส์ระยะสุดท้าย มีแผลเน่าเหวอะหวะ ซึ่งเธอมองว่าไม่เหมาะสม และฝากให้ผู้จัดทำละคร รับผิดชอบสังคมด้วย
จากนั้นก็ได้มีชาวพันทิปอีกจำนวนมากที่เห็นด้วยกับประเด็นนี้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยมีทั้งคนที่มองว่า การนำเสนอจุดจบร้ายแรงของตัวอุไร ซึ่งเป็นเอดส์นั้น อาจจะกระทบกับผู้ป่วยจำนวนมากที่อยู่ในช่วงรักษาตัว หากได้เห็นแบบนี้ก็อาจจะเสียกำลังใจในการต่อสู้กับโรคได้ เป็นการสร้างทัศนคติทางลบและสร้างค่านิยมผิด ๆ เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคดังกล่าว ทั้งที่จริง ๆ ปัจจุบัน มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น บ้างก็มองว่า ละครไทยมักจะนำเสนอเกี่ยวกับตัวละครที่เป็นโรคเอดส์ในลักษณะแบบนี้ ทั้งที่ปัจจุบันโลกเราไปไกลแล้ว หากกินยาต้าน และรักษาตัวให้ดี ก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ น่าจะนำเสนอแนวให้กำลังใจกันมากกว่า
ในขณะเดียวกันก็มีแฟนละครอีกหลายคนที่มองว่า การนำเสนอแบบนี้ ก็เหมาะกับบทบาทตัวละครของอุไรแล้ว และตั้งแต่ที่อุไรติดเชื้อจนกระทั่งป่วยหนัก ในเนื้อเรื่องก็คือผ่านมาหลายปี เธอก็อาจจะป่วยหนักไปถึงขั้นนั้นได้ หากไม่คิดจะดูแลตัวเอง หรือไม่มีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ อีกทั้งบางคนก็มองว่า การนำเสนอแบบนี้ในละคร หากมองในอีกมุม ก็เป็นการทำให้คนทั่วไปรู้สึกกลัวการต้องป่วยเป็นโรคนี้ ตระหนักถึงพิษภัยและไม่ละเลยที่จะป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ HIV ด้วย ซึ่งการรณรงค์ให้คนกลัวการเป็นโรคนี้ ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ถือเป็นคนละกรณีกับการรณรงค์ให้ยอมรับในตัวผู้ป่วย ไม่กลัวคนป่วยโรคนี้ และให้กำลังใจกันเพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในสังคมได้ตามปกติ
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะ ดูละคร เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนจบแล้ว คิดว่าอย่างไร...?
ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 2699582 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, TV3 Official, Instagram lydiasarunrat, polyplus_jad_hai