ละครเรื่องพรหมลิขิต ถือว่ามาแรงสุด ๆ ที่แค่ฉายไป 2 ตอนก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องที่มีคนออกมาวิจารณ์ โดยเฉพาะฉากแม่การะเกดกำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการปวดท้องอยากคลอดลูกคนที่ 4 ซึ่งทั้งบ่าวไพร่ เจ้านาย ต่างคนต่างสนใจแต่จะกินหมูกระทะ ไม่สนใจแม่การะเกดเลย
ทั้งนี้ ได้มีคนหนึ่งบอกว่า คนไทยสมัยอยุธยาไม่กินหมูกระทะ เพราะทำระบบปศุสัตว์ไม่เป็น จับปลาจับกุ้งในแม่น้ำกินง่ายกว่า เงินก็ไม่ค่อยมี จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อหมูจากคนจีน จะเลี้ยงหมูไว้กินเองก็ไม่คุ้ม ครอบครัวเดียวกินหมูทั้งตัวไม่หมด จะกินสัตว์บกใหญ่ ๆ แต่ละครั้งต้องรองานบุญถึงจะล้มมากินกับคนจำนวนมาก คนที่กินหมูมีแต่คนจีน ต้องลองคิดง่าย ๆ ว่า อาหารไทยสมัยก่อนมีอะไรบ้างที่ทำจากเนื้อหมู
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้รอมแพงเคยอธิบายเอาไว้แล้วตั้งแต่สมัยที่บุพเพสันนิวาสดัง ๆ ว่า ในกรุงศรีอยุธยามีเนื้อหมูขายที่บ่านในไก่ ตลาดน้อย ซึ่งเป็นย่านของคนจีนที่นิยมกินหมูและฆ่าหมู ที่นั่นจะขายทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด และมีบันทึกในพงศาวดารเรื่องของภูมิสถานในสมัยกรุงศรีอยุธยา คนจีนที่เข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยไหนไม่ทราบ แต่สมัยสุโขทัย มีการนำเข้าช่างจีนมาทำเครื่องปั้นดินเผา ทำให้เกิดเตาทุเรียงในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ก่อนหน้านี้สมัยพระนารายณ์ ก็มีกรมท่าซ้าย ที่มีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี เป็นคนจีนที่เข้ามาควบคุมทุกอย่างที่นำเข้าจากจีน เมื่อมีชุมชนชาวจีน หมูพันธุ์ที่จีนนิยมจึงถูกนำเข้ามาด้วย
ส่วนอาหารที่คนไทยสมัยอยุธยาชอบกินนั้น มีบันทึกของบาทหลวงที่กล่าวว่า คนไทยนิยมกินปลาเพราะหาง่าย เนื้อหมูหายาก และคนไทยไม่นิยมกินสัตว์ใหญ่เพราะกลัวบาป
นอกจากนี้ ยังมีคนบอกว่า เรื่องนี้เป็นละคร และนางเอกก็ย้อนกลับมาเกิดในสมัยอยุธยา และนำวัฒนธรรมไทยสมัยนี้เข้าไปด้วย เช่น หมูกระทะเพิ่งเข้ามาในไทยในช่วงสงครามเกาหลี - สงครามเวียดนาม การจะแต่งเรื่องตามจินตนาการก็ทำได้อยู่แล้ว
