เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก thaifilm.com
เป็นประเด็นคำถามที่สังคมต้องการคำตอบอย่างชัดเจนจริง ๆ สำหรับกรณีที่ทางไทยทีวีสีช่อง 3 งดออกอากาศละครเรื่อง "เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์" โดยระบุว่า เนื้อหาบางช่วงบางตอนไม่เหมาะสมที่จะออกอากาศ และได้ทำการนำละครเรื่องใหม่เสียบขึ้นแทนทันทีชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย จนกลายเป็นประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ว่า เบื้องหลังของการงดออกอากาศในครั้งนี้... กองเซนเซอร์? รัฐบาล? ช่อง 3? หรือคนดูไบ? ใครกันแน่เป็นคนสั่งแบน และสั่งแบนเพื่ออะไร
แต่จะว่าไป กรณีของเหนือเมฆ 2 นั้นก็ไม่ใช่ปรากฎการณ์ "แบน" ครั้งแรกของประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดกรณีนี้ขึ้นมาแล้ว...
ปี 2537 ละครเรื่อง "สารวัตรใหญ่" เป็นละครที่สร้างมาจากชีวิตจริงของ "พ.ต.ต.ใหญ่ เวโรจน์ เป็นอดีตตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)" โดยดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ นำแสดงโดย ลิขิต เอกมงคล และ มนฤดี ยมาภัย ออกอากาศฉายที่ช่อง 7 ผลิตโดยบริษัท กันตนา ซึ่งละครเรื่องดังกล่าวเป็นการเสนอเรื่องราวชีวิตของตำรวจน้ำดี ที่ต้องการเปลี่ยนพื้นที่คอร์รัปชั่น และอาชญากรรมให้กลายเป็นพื้นที่ที่สงบสุขให้ได้ถึงแม้ละครเรื่อง "สารวัตรใหญ่" จะได้รับคะแนนนิยมเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเนื้อหาที่เกี่ยวกับวงการตำรวจโดยตรง จนทำให้เกิดกระแสประท้วงจากข้าราชการตำรวจที่ไม่พอใจให้ยุติละครดังกล่าว เนื่องจากคิดว่าละครดูหมิ่นและทำลายภาพลักษณ์ของตำรวจ ทำให้ละครไม่สามารถออกอากาศได้ถึงตอนจบ และต้องยุติการออกอากาศกลางคัน... ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นที่ค้างคาใจของสังคม ถึงการแทรกแซงของตำรวจในการกระทำครั้งนี้...
ปี 2547 ภาพยนตร์เรื่อง "โว๊กว๊าก" เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ดังกล่าวมีชื่อว่า "ยอดชายนายโอ๊กอ๊าก" นำแสดงโดยดาราตลก "สายัณห์ ดอกสะเดา" ที่รับบทเป็น "โอ๊กอ๊าก" ลูกชายของ "เจ้าสัวรักสิน" อีกทั้งยังมีนักแสดงหน้าเหมือนนักการเมืองจากสภาโจ๊กมาร่วมแสดงด้วยงานนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาหนาหูเลยว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนั้นล้อเลียน นายโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนเป็นเหตุให้ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล เข้าไปตรวจสอบภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกตัดฉากบางฉากออกไป เพราะไม่อยากมีปัญหา รวมถึงเปลี่ยนชื่อจาก "ยอดชายนายโอ๊กอ๊าก" เป็น "โว๊กว๊าก" แทนด้วย
ปี 2548 ละครเรื่อง "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ซึ่งละครเรื่องนี้เป็นการนำเค้าโครงชีวิตจริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาสร้าง แต่กระนั้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน เพราะละครเรื่องดังกล่าวเข้าข่ายการโฆษณาชวนเชื่อ และเพื่อกอบกู้ศรัทธาของตัวเองกลับคืนมาสำหรับละครเรื่อง "ตาดูดาว เท้าติดดิน" นำแสดงโดย พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ และ จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา กำหนดออกฉายปลายปี 2548 ทางช่อง 7 แต่ขณะนั้นเกิดมรสุมทางชีวิตการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้ละครเรื่องนี้ยังไม่ได้ออกอากาศจนถึงทุกวันนี้
ปี 2550 ภาพยนตร์เรื่อง "แสงศตวรรษ" เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เป็นหนึ่งในชุดผลงานของผู้กำกับ 6 คนจากทั่วโลก ร่วมกับผู้กำกับจากปารากวัย อิหร่าน ชาด ไต้หวัน และอินโดนีเซีย โดยได้รับทุนสนับสนุนจากทางการกรุงเวียนนา และออกฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 ในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับรางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม จากงานเอเชียน ฟิล์มส์ อวอร์ดส์ ที่ฮ่องกง และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Lotus du Meuilleur Film-Grand Prix ในงานเทศกาลภาพยนตร์เอเชียโดวิลล์ ครั้งที่ 9 ประเทศฝรั่งเศส และมีกำหนดฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2550 แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ทางผู้กำกับต้องตัดฉากสำคัญออกไป 4 ฉาก เนื่องจาก ทางกองเซ็นเซอร์มีความเห็นว่า กระทบกับภาพลักษณ์ขององค์การศาสนาและองค์กรทางการแพทย์ ทำให้ อภิชาติพงศ์ ผู้กำกับคนไทยตัดสินใจไม่ตัดฉากทั้ง 4 ออก... ภาพยนตร์ดังกล่าวจึงไม่ถูกฉายตามกำหนด
ส่วนฉากที่ไม่ผ่านการพิจารณาจากกองเซ็นเซอร์ คือ
ฉากพระกำลังเล่นกีตาร์ฉากหมอดื่มเหล้าในโรงพยาบาลขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ฉากหมอชายจูบแสดงความรักกับแฟนสาวที่แวะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล ก่อนจะต้องจากกันเมื่อฝ่ายหญิงต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัด และเกิดอารมณ์ทางเพศจนเห็นความผิดปกติของเป้ากางเกงฉากพระเล่นเครื่องร่อน ปี 2555 ภาพยนตร์นอกกระแส "เชคสเปียร์ต้องตาย" (Shakespeare Must Die) ซึ่งเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากโศกนาฏกรรมแม็คเบ็ธ ของวิลเลียม เชกสเปียร์ แต่ปรับภาษาภาพยนตร์ให้เข้ากับวัฒนธรรมไทย ส่วนสาเหตุที่ไม่ผ่านการพิจารณาจากกองเซ็นเซอร์ เนื่องจากมีเนื้อหาบางตอนก่อให้เกิดความแตกสามัคคีระหว่างคนในชาติ อีกทั้งยังมีเนื้อหาพาดพิงถึงเหตุวันที่ 6 ตุลาคม 2519 และ เมษายน 2552 นอกจากนี้ ปีศาจในเรื่องสวมชุดสีแดง จึงเปรียบเสมือนการกล่าวหาคนเสื้อแดงแต่ทั้งนี้... จากเหตุการณ์ "แบน" ละครหรือภาพยนตร์ที่ผ่านมา ก็มีที่มาที่ไปอย่างแน่ชัด... ว่าใครเป็นคนแบน และแบนเพราะอะไร เพื่อเป็นการตอบปัญหาที่คลางแคลงใจของสังคม และแน่นอนสังคมก็ต้องการคำตอบจากช่อง 3 เกี่ยวกับการแบนละครเหนือเมฆก็เช่นเดียวกัน...
