เปิดวิวัฒนาการเตาหมูกระทะ กับรูปทรงโค้งเจาะรู ปิ้งย่างต้มน้ำได้ในคราวเดียว พบมีตำนานเรื่องเล่าจากมองโกล เดินทางสู่ ญี่ปุ่น เกาหลี และมาจบที่อโยธยา
หากใครที่ได้ดูละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส คงต้องตลกไปความสนุกสนานกับการที่แม่การะเกด อยากกินหมูกระทะมาก หากแต่ไม่มีเตา จึงลงทุนวาดภาพเตาหมูกระทะ แถมเจาะรูพร้อม จนพี่หมื่นแปลกใจว่าเตานั้นจะออกมาแบบไหน
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1918 จึงมีการบันทึกถึงเรื่องเนื้อย่างครั้งแรกไว้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะเพิ่มจำนวนประชากรแกะให้สูงถึง 1 ล้านตัว จึงมีการตั้งฟาร์มแกะ 5 แห่งทั่วญี่ปุ่น แต่เกิดวิกฤตเนื้อแกะล้นตลาด ต่อมา ฟาร์มทุกแห่งก็ถูกปิดยกเว้นที่เกาะฮอกไกโด จึงทำให้หลังจากที่เกษตรกร ไถเอาขนแกะมาแล้ว ก็ฆ่าแกะแล้วนำมาปิ้งกิน
ในปี 1931 ได้มีการบัญญัติศัพท์คำว่า เนื้อย่างเจงกิสข่าน ซึ่งคาดว่าคำคำนี้คิดขึ้นมาโดยนายโทคุโซะ โคมาอิ หนุ่มจากเมืองซัปโปโร่ เกาะฮอกไกโด และคาดว่าเขาเองตั้งชื่อนี้เพราะได้แรงบันดาลใจมากจากเนื้อย่างสไตล์จีนตอนเหนือ
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อมีผู้ที่นิยมรับประทานเนื้อแกะปิ้งย่างกันอย่างแพร่หลาย บวกกับญี่ปุ่นมีการรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเนื้อจากเนื้อแกะ มาเป็นเนื้อวัว และจะเรียกปิ้งย่างสไตล์นี้ว่า ยาคินิคุ ซึ่งเนื้อย่างสไตล์เจงกิสข่าน ก็ถือเป็นปิ้งย่างแบบยาคินิคุเช่นเดียวกัน
ในปี 1936 ได้มีการเปิดร้านเนื้อย่างเจงกิสข่านครั้งแรกขึ้นในโตเกียว และใช้ชื่อร้านว่า Jingisu-sō ที่แปลว่า ร้านเจงกิส
ในอีกทางหนึ่ง ยังมีการกล่าวกันว่า เนื้อย่างแบบนี้ได้อิทธิพลมาจากอาหารเกาหลีที่ชื่อว่า บูโกลกิ และ กัลบี้ และเป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่นในสมัยศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะหลังจากยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งร้านอาหารที่เสิร์ฟปิ้งย่างจะบอกว่าร้านนั้นเสิร์ฟเมนูแบบ โฮะโรมอนยากิ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าอาหารโชซอน แต่เมื่อเกาหลีแบ่งประเทศออกเป็นเหนือและใต้ นักธุรกิจเกาหลีใต้ก็เลิกเรียกอาหารชนิดนี้ว่า โชซอน และเปลี่ยนชื่อเป็น 韓国料理 ที่แปลว่า อาหารเกาหลีใต้
ส่วนหมูกระทะนั้น คาดว่าเข้ามาในไทยในช่วงปี พ.ศ. 2500 ซึ่งแรกเริ่มจะมีการนำเข้ามาขายในภัตตาคาร เรียกว่า เนื้อย่างเจงกีสข่าน ส่วนในภาคอีสานนั้นจะเรียกว่า เนื้อย่างเกาหลี โดยที่ จ.อุบลราชธานี จะมีร้านต้นตำรับที่เรียกว่า หมื่นทิพย์เนื้อย่างเกาหลี แต่ในยุคแรกนั้นจะมีการเสิร์ฟเป็นชุด ๆ มากกว่า
อย่างไรก็ตาม อาหารสไตล์ปิ้งย่างเริ่มแพร่หลายมาก ๆ จากร้านไดโดม่อน ที่ได้นำเสนอปิ้งย่างรูปแบบใหม่ ด้วยการทำเป็นร้านปิ้งย่างสไตล์บุฟเฟ่ต์ ลูกค้าสามารถเลือกอาหารได้ตามใจจากเมนูหลากหลายที่มี จนร้านถูกขนานนามว่า "บิดาแห่งบุฟเฟ่ต์หมูกะทะ" และเมื่อเตาแบบโดมที่ถูกใช้ในเนื้อย่างเจงกิสข่าน มาผสานกับบุฟเฟ่ต์ จึงกลายเป็นบุฟเฟ่ต์หมูกระทะที่เรารู้จักในปัจจุบัน
ภาพจาก Instagram ch3thailand, broadcastthaitv, mello.me