
ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华
เรื่องย่อซีรีส์จีน
In The Name Of Blossom
หอมกลิ่นรักแห่งวสันตฤดู

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华
งามบุปผาสกุณา ภาคแรก Flourished Peony เล่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร
Flourished Peony หรือชื่อไทยว่า งามบุปผาสกุณา ซีรีส์จีนโบราณที่ผสานความละมุนของเรื่องราวรักโรแมนติก เข้มข้นด้วยการเมืองและกลยุทธ์การค้า นำแสดงโดย หยางจื่อ และ หลี่เซี่ยน ที่กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากซีรีส์ยอดฮิต Go Go Squid สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของ Yi Qianchong ถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวผู้กล้าก้าวข้ามกรอบของสังคมในยุคโบราณ เพื่อฝัน เสรีภาพ และความรัก
เรื่องราวเริ่มต้นในยุคราชวงศ์ถังที่เจริญรุ่งเรืองแต่ซ่อนความวุ่นวายไว้มากมาย เหอเหวยฟาง (หยางจื่อ) บุตรสาวพ่อค้าที่เชี่ยวชาญด้านการปลูกดอกโบตั๋นหายาก ต้องแต่งงานแบบคลุมถุงชนตามขนบธรรมเนียมกับชายจากตระกูลพ่อค้าเช่นกัน แต่ความทะเยอทะยานในตัวเธอที่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองกลับไม่ถูกยอมรับ ทำให้เธอตัดสินใจหย่าร้างและออกมาตั้งต้นชีวิตใหม่ ด้วยความสามารถและความรู้ด้านดอกไม้ เธอเริ่มทำธุรกิจเครื่องหอม ยา และของใช้จากดอกโบตั๋น และได้พบกับ เจียงฉางหยาง (หลี่เซี่ยน) ขุนนางหนุ่มเจ้าเสน่ห์ผู้มีเบื้องหลังซ่อนอยู่ ทั้งสองร่วมมือกันเปิดร้านดอกไม้ และผลักดันผู้หญิงที่เคยถูกกดขี่ให้มีที่ยืนในสังคม ขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับภัยการเมือง การกบฏ และอำนาจมืดที่แฝงอยู่ในโลกการค้า

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่ประทับใจจากผู้ชมแฟนพันธุ์แท้ซีรีส์จีนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าและทำผมของตัวละคร โดยเฉพาะเหล่าสตรีในเรื่องที่มีจริตอ่อนหวาน ผมถูกจัดทรงสูงอย่างประณีต ประดับด้วยดอกไม้ ปิ่นทอง และเครื่องประดับมุก คิ้วโก่งเรียวเล็ก แต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูระเรื่อ ให้ลุคหรูหราแบบหญิงสูงศักดิ์ในราชสำนัก มาในเครื่องแต่งกายแนว ชุดฮั่นฝู แบบราชวงศ์ถัง เน้นแขนกว้าง ผ้าพลิ้ว สีสันสดใส และลวดลายดอกไม้หรูหรา เสื้อคลุมบางเบาทับกระโปรงรัดอกยาวถึงข้อเท้า แสดงฐานะและรสนิยมของตัวละครได้อย่างชัดเจน ซึ่งหยางจื่อในบทนางเอกมีการเปลี่ยนชุดหลากหลายแทบไม่ซ้ำ แสดงถึงพัฒนาการของตัวละครจากหญิงสามัญชนสู่ผู้นำธุรกิจสาว
นอกจากนี้ ฉากหลักของซีรีส์เต็มไปด้วยสวนดอกโบตั๋นหลากสายพันธุ์ อาคารแบบจีนโบราณท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของเมืองฉางอาน รวมถึงร้านดอกไม้สุดวิจิตรที่เป็นหัวใจของเรื่อง โทนสีของภาพเน้นความสดใส อบอุ่น หอมหวาน ราวกับทุกฉากถูกปกคลุมด้วยกลิ่นหอมของบุปผาอีกด้วย
เรื่องย่อ In The Name Of Blossom หอมกลิ่นรักแห่งวสันตฤดู

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华
หลังจากเอาชนะอุปสรรคในภาคแรกและเริ่มต้นชีวิตรักในแบบที่ตนเลือกเอง เหอเหวยฟาง และ เจียงฉางหยาง ได้ร่วมกันผลักดันธุรกิจสวนฟางให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าดอกไม้ที่รุ่งเรืองที่สุดในเมืองฉางอัน แต่ความมั่นคงของพวกเขากลับถูกสั่นคลอน เมื่อดอกโบตั๋นกลายเป็นสินค้าทางการทูตและอำนาจที่หลายฝ่ายต้องการครอบครอง
ขณะเดียวกัน ความลับในอดีตของเจียงฉางหยางก็ถูกเปิดเผย กลายเป็นชนวนให้เกิดการกบฏและศึกอำนาจในวังหลวง เหอเหวยฟางจึงต้องยืนเคียงข้างชายคนรักในฐานะหุ้นส่วนชีวิต ทั้งในธุรกิจ การเมือง และความรักที่ต้องซ่อนเร้นจากสายตาคนทั้งเมือง
รายชื่อนักแสดงนำในซีรีส์ In The Name Of Blossom หอมกลิ่นรักแห่งวสันตฤดู
-
หยางจื่อ รับบท เหอเหวยฟาง
-
หลี่เซี่ยน รับบท เจียงฉางหยาง
-
เว่ยเจ้อหมิง รับบท หลิงชาง
-
จางหย่าชิน รับบท หลี่โย่วเจิน

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华
6 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์ In The Name Of Blossom (2025)
1. พล็อตเข้มข้นกว่าเดิม ทั้งการเมือง การค้า และศึกอำนาจ : ซีรีส์พาร์ต 2 พัฒนาเรื่องราวจากเพียงการต่อสู้ของหญิงสาวธรรมดา สู่เกมอำนาจระดับราชสำนัก ดอกโบตั๋นที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความงาม กลับกลายเป็นเครื่องมือของการทูต การต่อรอง และการเปลี่ยนขั้วอำนาจ ผู้ชมจะได้เห็นการวางหมากซ้อนหมากแบบหมากล้อม ระหว่างตระกูล พ่อค้า และขุนนางทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน
2. เคมีพระ-นาง อบอุ่น ลึกซึ้ง มีมิติมากขึ้น : หากภาคแรกคือจุดเริ่มต้นของความรัก พาร์ต 2 คือบทพิสูจน์ของความมั่นคง เหอเหวยฟางและเจียงฉางหยางไม่เพียงรักกันในฐานะคู่ชีวิต แต่ยังเป็นคู่คิด คู่กลยุทธ์ ที่คอยผลักดันและปกป้องกันและกันในทุกสถานการณ์ เคมีของหยางจื่อและหลี่เซี่ยนถูกพัฒนาจนกลายเป็น “คู่ขวัญแห่งปี”
3. แต่งหน้า ทำผม สะท้อนฐานะและบทบาทของตัวละคร : การแต่งหน้าสไตล์ราชวงศ์ถังยังคงโดดเด่น โดยเฉพาะในตัวละครหญิงที่ถูกออกแบบให้แต่ละลุคสะท้อนอารมณ์และสถานะของตัวละคร เช่น คิ้วโก่งเรียวเล็ก แต่งสีโทนชมพูและทอง เสื้อผ้าชั้นในและนอกแยกชัด ทรงผมยกสูงประดับปิ่นทอง-ดอกไม้ หรูหราสมฐานะ
4. เตรื่องแต่งกายและแฟชั่นจีนโบราณหรูหราราวเทพธิดา : ภาคนี้ยังคงใช้ ชุดฮั่นฝู แบบราชวงศ์ถัง ซึ่งโดดเด่นเรื่องแขนกว้าง ผ้าพลิ้ว สีสันสดใส แต่ละชุดสะท้อนทั้งฐานะ บทบาท และสถานะทางการเมือง เช่น เหอเหวยฟางในลุคผู้นำหญิง ขุนนางหญิงในชุดสีทึบแสดงอำนาจ หรือชาววังในชุดพริ้วเบาบางเต็มไปด้วยกลิ่นอายศิลปะ
5. โปรดักชันอลังการ ฉากราชสำนัก สวนโบตั๋น และวังหลัง : ฉากในภาคนี้ขยายจากเรือนปลูกดอกไม้ไปสู่วังหลวง พื้นที่การเจรจาระหว่างราชวงศ์ และงานเทศกาลขนาดใหญ่ที่เนรมิตออกมาได้อลังการราวกับภาพวาดจีนโบราณ การออกแบบฉากสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของฉางอานอย่างสมจริง ทุกฉากคือสุนทรียะของศิลปะและเรื่องราวในเวลาเดียวกัน
6. ตัวละครเติบโตอย่างมีมิติ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจ : หนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์นี้ คือการวางเส้นเรื่องให้ตัวละครเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งในด้านอารมณ์ ความคิด และการตัดสินใจของเหอเหวยฟางที่กลายเป็นสตรีผู้เปี่ยมวิสัยทัศน์ ส่วนเจียงฉางหยางเองก็พัฒนาจากขุนนางเย็นชาสู่ผู้นำที่อ่อนโยน และกล้าสู้เพื่อความยุติธรรมด้วยเช่นกัน

ภาพจาก : Weibo @电视剧锦绣芳华
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ หยางจื่อ นางเอกจีนสุดคิวต์ เจ้าของรอยยิ้มสดใส เล่นเรื่องไหนก็ปัง
- ประวัติ หลี่เซี่ยน พระเอกหนุ่มสุดฮอต หล่อเท่ คาริสม่ากระจาย
- รวมซีรีส์จีนรักหวานซึ้ง โรแมนติกสุดละมุน อัปเดตปี 2025 ที่คนรักซีรีส์ต้องห้ามพลาด
- แนะนำซีรีส์จีนใหม่ ๆ ปี 2025 เสิร์ฟความสนุก ครบทุกรสชาติ เพลิดเพลินกันได้ทั้งครอบครัว