เรื่องย่อละคร ดาวเกี้ยวเดือน

          ดาวเกี้ยวเดือน เรื่องย่อละครช่อง 3 เมื่อสาวสวยวัยใกล้ขึ้นคาน นึกอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ปฏิบัติการตามล่าหาสเปิร์มจึงเริ่มต้นขึ้น ติดตามชมได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวา 08.45 น.

ดาวเกี๊ยวเดือน  ดาวเกี้ยวเดือน
ดาวเกี้ยวเดือน ละครช่อง 3

เรื่องย่อดาวเกี้ยวเดือน

          "เมื่อสาวสวยวัยใกล้ขึ้นคาน นึกอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ปฏิบัติการตามล่าหาสเปิร์มจึงเริ่มต้นขึ้น"

          ความคิดประหลาด ๆ เช่นนี้เป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก ประกายดาว ช่างภาพสาวสวยวัย 32 ปี ผู้มีความมั่นใจในตัวเอง รักเด็กมากกว่านางงามทุกเวที แต่มีอาการเบื่อหน่ายผู้ชายสุด ๆ หลังจากเคยผ่านประสบการณ์ความรักมาแล้วถึงสามครั้ง ตั้งแต่อยู่ในวัยสาวแรกแย้มจนถึงวัยสาวระยะสุดท้าย แต่เธอก็ยังสามารถรักษา "ความจิ้น" เอาไว้ได้สมกับเป็นหญิงไทย และเธอก็ยืนหยัดที่จะรักษามันเอาไว้ต่อไปพร้อมกับโบกมือลาผู้ชายทั้งโลก ซึ่งปณิธานนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าเธอไม่นึกเกิดอยากมีลูกเป็นของตัวเองขึ้นมา

          โดยมีสาเหตุเริ่มมาจากที่พ่อแม่ของเธอซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายข้าวขาหมูเล็ก ๆ เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ ประกายดาวกับแดนดิน พี่ชายได้รับมรดกมูลค่าร้อยล้านกว่าบาท ทำเอาสองพี่น้องตกตะลึงมาก ถึงพวกเขาจะรู้ดีว่าพ่อแม่เป็นคนขยัน รู้จักอดออม และมีมรดกของบรรพบุรุษเก็บอยู่บ้าง แต่พวกเขาไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่จะเป็นพวก "ผ้าขี้ริ้วห่อโคตรเพชร" เมื่อได้รับมรดกแล้ว แดนดินก็นำเงินไปซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหญ่อยู่กับ นภาวัลย์ ภรรยา และ น้องฟ้า ลูกสาวผู้น่ารัก ส่วนประกายดาวเลือกที่จะซื้อคอนโดหรูย่านกลางเมืองอาศัยอยู่ลำพัง เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน แต่แม้จะมีเงินทองมากมาย แต่เธอก็ยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างในชีวิต

          แล้วยิ่งประกายดาวเห็นภาพนภาวัลย์แสดงความรักกับน้องฟ้า ก็ทำให้ประกายดาวรู้สึกดีมาก ประกอบกับประกายดาวไปมีเรื่องกับ อรอุมา ภรรยาไฮโซจอมหึงหวงของ ศิวะ แฟนคนแรกของประกายดาวที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ประกายดาวไปทำบุญประจำอยู่แล้ว เพราะตอนแรกศิวะพยายามจะเข้ามาคุยกับประกายดาว และบอกว่ายังรักเธออยู่เสมอ ถึงประกายดาวจะเดินหนีศิวะแล้ว แต่อรอุมากับ รติรส เพื่อนอรอุมาก็ยังหาว่าเธออ่อยศิวะ ประกายดาวจึงเกิดความคิดว่า "ลูก" จะมาช่วยเติมเต็ม และคงจะไม่มีใครอยากมายุ่งกับผู้หญิงมีพันธะด้วย

          ประกายดาวมีความคิดจะขอเด็กกำพร้ามารับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่แดนดินสั่งห้ามเด็ดขาด เนื่องจากหวั่นถึงปัญหาที่อาจจะตามมาภายหลัง ความต้องการนี้จึงไม่เป็นผล จนกระทั่งวันหนึ่งประกายดาวไปถ่ายรูปในงานเปิดโรงพยาบาลใหม่ ของที่เน้นจุดขายคือการทำกิ๊ฟที่ได้ผล ในงานมีเด็กน้อยที่เกิดจากการทำกิ๊ฟไปร่วมงานด้วย และแน่นอนว่าเมื่อประกายดาวเห็นเด็ก ๆ ก็อดใจไม่อยู่จึงเข้าไปเล่นด้วย ประกายดาวนำขนมให้เด็กน้อย แต่เด็กน้อยกลับโยนขนมลอยไปแปะอยู่บนเสื้อสูทของ หม่อมราชวงศ์จันทรภานุนพรัตน์ หรือคุณชายจันทร์ ราชนิกูลหนุ่มหล่อลากดินวัย 35 ปี ที่กำลังเป็นขวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่ในแวดวงสังคม เขาเป็นเจ้าของห้างมีเดียมเวิร์ดในเครือมีเดียมกรุ๊ป และเป็นหนึ่งในผู้ใจบุญร่วมบริจาคสร้างตึกโรงพยาบาลด้วยจำนวนเงินหลายสิบล้านเข้าอย่างจัง

          ประกายดาวรีบขอโทษขอโพยและกุลีกุจอไปเช็ดรอยขนมบนเสื้อให้ชายหนุ่ม แต่มันยิ่งทำให้เสื้อเละไปกันใหญ่ แต่ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของคุณชายจันทร์ นอกจากสายตาคมปลาบที่ประกายดาวไม่เข้าใจความหมายของสายตานั้น ก่อนคุณชายจันทร์จะกลับไป คนเจ้าระเบียบอย่างเขาไม่ยอมใส่เสื้อสูทที่มีรอยเปื้อนไปร่วมงานใดเด็ดขาด เพราะจะเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าของงาน ประกายดาวจึงถูกลงโทษด้วยสายตาพิฆาตจากเหล่าบรรดาสาว ๆ ในงานที่ตั้งใจจะมาแทะโลมคุณชายจันทร์ด้วยสายตา แต่ประกายดาวก็ไม่ยี่หระ เพราะเธอกำลังสนใจภาพตัวสเปิร์มวิ่งไปมาอยู่บนจอขนาดใหญ่ ที่คุณหมอใช้ประกอบการบรรยายวิธีการมีลูกโดยไม่ต้องใช้วิธีทางธรรมชาติ หัวใจของประกายดาวพองโตประดุจเจอเพชรเม็ดงาม เธออยากจะกรีดร้องออกมาให้ลั่นโลก ว่าเธอพบวิธีจะมีลูกโดยไม่ต้องมีสามีได้แล้ว

ดาวเกี้ยวเดือน  ดาวเกี้ยวเดือน

          ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายแสนแพงไม่เป็นปัญหากับคนได้รับมรดกร่วมร้อยล้านอย่างเธอ แต่ติดปัญหาที่ว่าเธอจะหาสเปิร์มมาจากไหน ครั้นจะบินไปขอสเปิร์มจากธนาคารสเปิร์มที่ต่างประเทศ เธอก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลของเจ้าของสเปิร์มที่กรอกลงในข้อมูลจะเป็นจริงหรือไม่ และเธอก็ไม่ได้อยากให้ลูกเป็นลูกครึ่งด้วย เธอต้องการพ่อพันธุ์ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม จิตสุภางค์ เพื่อนสนิทของประกายดาวค้านหัวชนฝากับความคิดดังกล่าว และรู้ดีว่าการมีลูกมันหนักหนาสาหัสเพียงไหน จิตสุภางค์เคยเป็นสาวทำงาน แต่ เฮียเชา สามีขอให้ลาออกมาเป็นแม่บ้าน หลังจากวันนั้นเธอก็กลายเป็นโรงงานผลิตลูก เธอมีลูกทั้งสิ้น 4 คนคือ หมวย หลิง หลิน และ หลง น้องชายคนสุดท้าย

          แต่ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจประกายดาวได้ เธอยังยืนยันคำเดิม ประกายดาวลองพิมพ์คำว่า "หล่อ การศึกษาดี ใจบุญ" ลงในกูเกิล ไม่นานหน้าจอก็ปรากฏภาพของคุณชายจันทร์เต็มพรืดไปหมด ทำเอาประกายดาวอึ้งไปเลย หญิงสาวลองหาชื่ออื่น ๆ ดูอีก ก็พบชื่อของ พงศ์จันทร พิพิธมงคล เจ้าของออแกไนเซอร์รูปหล่อ และเจ้าชู้ระดับคาสโนว่าเรียกพ่อ ประกายดาวไม่อยากให้ลูกติดเชื้อเจ้าชู้จึงตัดสินใจเลือกคุณชายจันทร์เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง และให้พงศ์จันทรเป็นเป้าหมายอันดับสองของปฏิบัติการตามล่าหาสเปิร์ม

          ประกายดาวเริ่มภารกิจด้วยการให้ มิลินทร์ เพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นนักข่าวสายสังคมช่วยสืบประวัติของคุณชายจันทร์อย่างละเอียด พบว่าเขาไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยทั้งเรื่องผู้หญิงและผู้ชายด้วยกัน คนในตระกูลไม่เคยมีประวัติตายด้วยโรคร้ายแรง จากประวัติการเรียนและการทำงานชี้ว่าคุณชายมีทั้งไอคิวและอีคิวสูงมาก สรุปว่าคุณสมบัติทุกอย่างเป๊ะ งานนี้ประกายดาวจึงมีความตั้งใจมุ่งมั่นว่าจะต้องทำให้สำเร็จ

          ดังนั้นเมื่อรู้จากมิลินทร์ว่าคุณชายจันทร์จะไปร่วมงานการกุศลที่ห้างมีเดียมกรุ๊ปจัดขึ้น ประกายดาวก็ไม่รีรอที่จะไปร่วมเป็นช่างภาพโดยตามคำชวนของ เจ๊พีช ช่างแต่งหน้ามือโปรที่เอ็นดูประกายดาวมาก และเจ๊พีชก็เป็นหนึ่งในทีมงานของงานนี้ด้วย ประกายดาวแต่งตัวสวยเป็นพิเศษเพื่อหวังจะหาโอกาสทำความรู้จักกับคุณชายจันทร์ให้ได้ ทว่าเขากลับควงคู่มากับ หม่อมราชวงศ์หญิงนิมมานรดี หรือ คุณหญิงนิ่ม หญิงสาววัย 21 ปี หน้าตาน่ารักอ่อนหวาน แล้วยังมี นันทินี สาวเปรี้ยวเข็ดฟัน จบแฟชั่นดีไซน์มาจากฝรั่งเศส ที่เป็นหนึ่งในสาว ๆ ที่คุณชายจันทร์ไปดูตัว สาวอื่นนั้นไปหมดแล้ว เหลือชีเพียงคนเดียวที่ทั้งอึดและทนยิ่งกว่าแมลงสาบ โดยมีความตั้งใจว่าต้องแต่งงานกับคุณชายจันทร์ให้ได้

          ประกายดาวรู้จากมิลินทร์ว่า...คุณชายจันทร์ไม่เคยควงใครนานเกินหนึ่งครั้งยกเว้นคุณหญิงนิ่ม เขาถึงมีฉายาว่า "เดทเดียวดับ" ประกายดาวจึงรู้ว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ง่ายเลยที่จะพบเจอกับคุณชายจันทร์มากกว่าเป็นคู่ควงเพียงหนเดียว แต่คนอย่างประกายดาวไม่เคยถอดใจโดยที่ไม่ลองดู เธอไม่ได้ต้องการครอบครองคุณชายจันทร์ สิ่งที่เธอต้องการคือพันธุ์อันดีงามเด่นเด้งของคุณชายจันทร์เท่านั้น ดังนั้นต่อให้ยากเย็นแค่ไหนเธอก็จะต้องทำให้ได้

ดาวเกี้ยวเดือน  ดาวเกี้ยวเดือน

          ขณะเดียวกันที่ประกายดาวกำลังแอบมองเป้าหมายอันดับหนึ่งผ่านเลนส์กล้องอยู่นั้น เธอไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเองก็กำลังเป็นที่สนใจของพงศ์จันทรเป้าหมายอันดับสองของประกายดาวผู้ซึ่งเป็นผู้จัดงานครั้งนี้ เขาสะดุดตาความสวยของตากล้องสาวตั้งแต่แรกเห็น จึงตามไปในงานปาร์ตี้ของเหล่าทีมงาน เพราะเจ๊พีชลากประกายดาวมาร่วมงานด้วย พงศ์จันทรไม่รีรอที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับตากล้องสาว โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเขาเองต่างหากที่ตกเป็นเป้าหมายอันดับสองของหญิงสาว พงศ์จันทรตื้อจะขอเบอร์โทรศัพท์ประกายดาวให้ได้ เธอจึงแกล้งสั่งให้เขาปั่นจิ้งหรีดกลางร้านอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่เธอจะผสมให้ เขาก็ยอมทำตามทุกอย่าง ประกายดาวจึงต้องให้เบอร์โทรศัพท์กับพงศ์จันทร โดยไม่หวั่นต่อความเจ้าชู้ของชายหนุ่ม เพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าจะอนุญาตให้พงศ์จันทรเป็นแค่เพื่อนและเป้าหมายอันดับสองเท่านั้น ส่วนตอนนี้หัวสมองของเธอมีไว้คิดหาทางใกล้ชิดเป้าหมายอันดับหนึ่งเท่านั้น โดยไม่รู้ว่าเธอไม่จำเป็นต้องคิดให้ปวดหัว เพราะโชคชะตาจะทำให้เธอกับเขาได้ใกล้ชิดกันโดยแบบไม่ต้องพึ่งแผนให้เหนื่อย

          เพราะเช้าวันหนึ่งมีข่าวซุบซิบว่าประกายดาวแย่งสามีของอรอุมาสาวไฮโซลงหนังสือพิมพ์ ในข่าวยังบอกว่าคอนโดหรูหรือบ้านเดี่ยวของแดนดินพี่ชายของประกายดาวได้มาจากการเป็นเมียน้องของศิวะ นักข่าวสะกดรอยตามประกายดาวแทบทุกฝีก้าว มิลินทร์จึงแนะนำให้ประกายดาวหนีไปอยู่ที่เชียงใหม่ก่อน รอให้ข่าวเงียบแล้วค่อยกลับมา ระหว่างนี้มิลินทร์จะทำหน้าที่แก้ข่าวพร้อมกับสืบหาต้นตอของข่าวให้เอง ประกายดาวก็ยอมไปเพราะไม่อยากให้ข่าวดังไปมากกว่านี้ เนื่องจากแคร์ความรู้สึกของพี่ชาย

          ประกายดาวมาถึงเชียงใหม่ก็หาที่พักเพื่อซ่อนตัว เธอตัดสินใจเลือกที่พักระดับหกดาว เพราะเชื่อว่าพวกนักข่าวต้องคาดไม่ถึงว่าตากล้องธรรมดาอย่างเธอจะมีปัญญาพักโรงแรมหรู ๆ เช่นนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยก็ต้องดีเยี่ยม แล้วขณะยืนรอเช็กอินห้องพัก ประกายดาวก็รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิต เพราะเธอเห็นคุณชายจันทร์คุยกับผู้จัดการในฐานะเจ้าของโรงแรมแห่งนี้

          ปฏิบัติการทำความรู้จักกับพ่อพันธุ์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ประกายดาวสะกดรอยตามจนพบว่าคุณชายจันทร์พา แม่นมพร แม่นมที่เลี้ยงดูคุณชายจันทร์ตั้งแต่เกิด เพราะ หม่อมสุรีย์ มารดาของคุณชายจันทร์จะต้องตามสามีไปออกงานสังคมอยู่บ่อย ๆ คุณชายจันทร์จึงสนิทกับนมพรมากกว่ามาทานอาหารที่ห้องอาหารฝรั่งเศสในโรงแรม ประกายดาวจึงเข้าไปทานด้วย ทว่าถ้าไปนั่งทานเฉย ๆ คงจะไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชายมาดขรึมและไม่เจ้าชู้เหมือนพงศ์จันทรอย่างคุณชายจันทร์ได้แน่นอน พลันประกายดาวก็ได้ยินผู้จัดการร้านคุยกับพนักงานด้วยความหนักใจว่า นักดนตรีที่เล่นเปียโนเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถมาเล่นได้ หนำซ้ำคืนนี้คุณชายจันทร์ยังขอให้เล่นเพลงพิเศษเพลงหนึ่งที่นมพรชอบด้วย ซึ่งประกายดาวเล่นเปียโนได้และเล่นเพลงที่นมพรชอบได้ด้วย เธอจึงขออาสาขึ้นไปเล่นให้เอง แล้วก็ได้ผลสมใจ เพราะคุณชายจันทร์จ้องมองหญิงสาวที่เล่นเปียโนด้วยท่าทางสง่างาม และเขาก็จำได้ว่าเธอคือคนที่เช็ดเสื้อให้เขาในวันงานเปิดโรงพยาบาลอย่างไม่วางตา

ดาวเกี้ยวเดือน  ดาวเกี้ยวเดือน

          ส่วนนมพรที่เห็นสายตาเป็นประกายของคุณชายจันทร์ยามมองประกายดาว ก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ทำให้คุณชายจันทร์นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีอาการเหมือนคนกำลังตกหลุมรักมาหลายวันแล้ว นมพรจึงช่วยขอให้ประกายดาวมาร่วมโต๊ะทานอาหาร และชื่นชมที่เธอเล่นเปียโนได้ไพเราะมาก ประกายดาวกับคุณชายจันทร์ก็เลยได้ทำความรู้จักอย่างเป็นทางการกันเป็นครั้งแรก

          ระหว่างพูดคุยกันอยู่นั้น ประกายดาวที่ลึก ๆ ก็รู้สึกผิดและอายตัวเองที่ต้องการสเปิร์มจากคุณชายจันทร์ เธอจึงไม่ค่อยกล้าสบตาเขาเท่าใดนัก จึงเลือกที่จะคุยกับนมพรที่คุยถูกคอกันมากกว่า หากมันทำให้นมพรเอ็นดูประกายดาวมากกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาของคุณชายจันทร์ นมพรจึงชวนประกายดาวไปเที่ยวเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ด้วยกัน ประกายดาวตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด หากพอตอนเช้านมพรกลับบอกว่าตัวเองไม่สบาย เพื่อจะเปิดโอกาสให้คุณชายจันทร์ไปเที่ยวกับประกายดาวตามลำพัง

          ประกายดาวกับคุณชายจันทร์ได้ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ด้วยกัน คุณชายจันทร์พอใจที่ประกายดาวเป็นตัวของตัวเอง อารมณ์ดีเสมอ และวางตัวกับเขาดีมาก ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาที่มักทำตัว "ง่าย" กับเขาเกินไป

          คืนนั้นประกายดาวหยุดพักภารกิจแวะไปเดินถ่ายรูปที่ตลาดตามลำพัง ประกายดาวพบกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังวาดรูปอยู่กับ พล เจ้านาย พิมพ์ไทย ต้นอ้อ เด็กชาวเขาที่ได้ทุนเรียนต่อจนจบปริญญาตรี ยกเว้นต้นอ้อที่มาจากภาคอีสาน ประกายดาวขอให้พวกเขาวาดรูปให้ด้วย และด้วยนิสัยอัธยาศัยดีเลิศ ทำให้ประกายดาวสนิทกับเด็กชาวเขาแก๊งนี้ได้ไม่ยาก แล้วพอประกายดาวกำลังจะกลับโรงแรม จู่ ๆ ก็มีโจรวิ่งมากระชากกระเป๋าของประกายดาว แต่โจรต้องสิ้นฤทธิ์ด้วยฝีมือเทควันโดสายดำของเธอ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสายตาของคุณชายจันทร์ที่ออกมาตามหาประกายดาว ชายหนุ่มทึ่งมาก เขายิ่งแน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรน่าสนใจมากมาย ประกายดาวเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจของคุณชายจันทร์โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ต่างจากคนอื่นที่รู้จักคุณชายจันทร์ รวมทั้ง อภิเชษฐ์ ตำรวจหนุ่มเพื่อนสนิทของคุณชายจันทร์ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับนันทินี เจอกันที่ไหนไม่ได้เป็นต้องแขวะต้องกัดกันทุกครั้ง อภิเชษฐ์เห็นแค่ภาพคุณชายจันทร์ลงจากรถสามล้อกลับมาที่โรงแรมพร้อมกับประกายดาว ทุกคนก็รู้ว่าประกายดาวเป็นผู้หญิงที่พิเศษมากสำหรับคุณชายจันทร์ แต่ก็มีก้างชิ้นโตอย่างนันทินีที่ตามติดคุณชายไปทุกที และคอยเป็นมารหัวใจระหว่างคุณชายกับประกายดาวตลอดเวลา แต่คุณชายจันทร์ก็ยังคงหลงเสน่ห์ประกายดาวมากขึ้นและมากขึ้น จนทำให้นันทินีแทบคลั่ง

          คุณชายจันทร์ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักจนแม่นมพรต้องโทรไปเล่าให้คุณหญิงนิ่มฟัง คุณหญิงนิ่มดีใจที่คุณชายจันทร์จะมีคนรักสักที เพื่อที่หม่อมสุรีย์แม่ของคุณชายจันทร์และมีศักดิ์เป็นป้าของคุณหญิงนิ่ม จะได้เลิกคิดจับคู่ให้เธอกับคุณชายจันทร์ที่เธอรักและนับถือไม่ต่างจากพี่ชายแท้ ๆ คุณหญิงนิ่มโทรศัพท์ไปยุคุณชายจันทร์ให้ทำตามสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง คุณชายจันทร์ก็เลยตัดสินใจขอเดทกับประกายดาว แต่หญิงสาวปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดนาน เพราะเธอกลัวฉายา "เดทเดียวดับ" ของคุณชายจันทร์ ซึ่งเธอยังไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของเธอกับประกายดาวยุติลงเพียงเท่านี้ แต่คุณชายจันทร์คิดว่าเธออาจจะมีคนอื่นอยู่แล้วก็ได้

ดาวเกี้ยวเดือน

          ขณะเดียวกันที่กรุงเทพฯ พงศ์จันทรคอยโทรศัพท์ทำคะแนนกับประกายดาวอยู่บ่อย ๆ แต่ประกายดาวก็คุยกับเขาเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่ง และมักพูดตำหนิเขาตรง ๆ เวลาที่เขาตื้อเธอเกินไป หนำซ้ำยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเธอพักอยู่ที่ไหน แต่มันกลับทำให้พงศ์จันทรยิ่งพอใจประกายดาว อยากจะตามไปทำคะแนนกับเธอที่เชียงใหม่ แต่ยังติดเสนองานเรื่องจัดงานที่โรงแรมมีเดียมโซฟีเทลกับคุณหญิงนิ่ม ซึ่งก่อนหน้านั้นมีบริษัทคู่แข่งมาดิสเครดิตพงศ์จันทรเรื่องความเจ้าชู้ให้คุณหญิงนิ่มฟัง แต่คุณหญิงนิ่มไม่ได้ใส่ใจ และยังพอใจไอเดียของพงศ์จันทรมาก จึงอนุมัติให้บริษัทของเขาเป็นผู้จัดงานครั้งนี้ พงศ์จันทรดีใจมากเพราะจะได้ถือโอกาสไปหาประกายดาวที่เชียงใหม่ด้วย

          ที่เชียงใหม่...ความสัมพันธ์ของประกายดาวและคุณชายจันทร์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งได้ใกล้ชิดกันประกายดาวก็ยิ่งเห็นความเป็นสุภาพบุรุษ ความอ่อนโยน และความเฉียบขาดในการตัดสินใจของคุณชายจันทร์ อย่างที่เธอไม่เคยเห็นจากผู้ชายคนใดมาก่อน หัวใจของประกายดาวเริ่มหวั่นไหวกับคุณชายจันทร์ แต่เธอก็เฝ้าเตือนตัวเองว่าเธอต้องการแค่สเปิร์มของเขาเท่านั้น แล้วประกายดาวก็ถึงกับอึ้งเมื่อพบพงศ์จันทรมาที่โรงแรมพร้อมกับคุณหญิงนิ่ม ซึ่งพงศ์จันทรก็อึ้งไม่ต่างกัน เพราะเขาเพิ่งรู้ว่าประกายดาวอยู่ที่นี่ด้วย

          ประกายดาวกลุ้มใจที่มีอุปสรรคมาขัดขวางภารกิจ จึงโทรไประบายความกลัดกลุ้มให้มิลินทร์ฟัง มิลินทร์ก็เล่าว่าตอนนี้เรื่องข่าวฉาวของประกายดาวซาลงไปแล้ว และมิลินทร์กำลังสืบอยู่ว่าใครเป็นต้นตอของข่าวนี้ มิลินทร์ให้กำลังใจและเชื่อว่าประกายดาวต้องทำได้ ให้นึกถึงลูกน้อยน่ารักในอนาคต ประกายดาวจึงมีกำลังใจขึ้นอีกครั้ง เธอคิดว่าจะต้องทำให้คุณหญิงนิ่มวางใจก่อนว่าเธอไม่ได้คิดจะแย่งคุณชายจันทร์ไป ขณะเดียวกันพงศ์จันทรก็คอยตามติดประกายดาวตลอดเวลา ทำให้คุณหญิงนิ่มแน่ใจว่าประกายดาวไม่ได้คิดอะไรกับพงศ์จันทร คุณหญิงนิ่มจึงคอยกันให้พงศ์จันทรอยู่ห่างจากประกายดาวโดยเอาเรื่องงานมาอ้าง เพื่อให้คุณชายจันทร์ได้อยู่ใกล้ชิดกับประกายดาว

          ซึ่งประกายดาวรู้เท่าทันความคิดของคุณหญิงนิ่ม ก็เลยสงสัยความสัมพันธ์ที่แท้จริงของสองราชนิกูลนี้ จึงไปสืบจากแม่นมพรก็เลยรู้ว่า แท้จริงแล้วคุณหญิงนิ่มกับคุณชายจันทร์เป็นญาติห่าง ๆ กัน ทั้งสองรักกันแบบพี่น้องเท่านั้น ประกายดาวสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

          แต่ใช่ว่าอุปสรรคของประกายดาวจะหยุดเพียงเท่านี้ เพราะจู่ ๆ ศิวะกับรติรสก็โผล่มาที่โรงแรมเพื่อนำผ้าไหมจากบริษัทของเขามาร่วมจัดงานแสดงสินค้ากับโรงแรมของคุณชายจันทร์ด้วย ศิวะพยายามจะมาขอโทษประกายดาวเรื่องข่าวและย้ำว่ายังรักเธออยู่เสมอ ซึ่งทำให้รติรสไม่พอใจแทนอรอุมา จึงคอยตามตอแยพูดจาประชดประชันประกายดาว รวมทั้งด่าให้คุณชายจันทร์และพงศ์จันทรได้ยินด้วยว่าประกายดาวเป็นผู้หญิงใจง่าย

ดาวเกี้ยวเดือน

          จนวันหนึ่งซึ่งเป็นวันจัดงานเลี้ยงขันโตกต้อนรับกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของสินค้าที่จะมาเปิดแสดงในงานที่โรงแรมจัดขึ้นตามการออกแบบงานของพงศ์จันทร โดยงานเลี้ยงจะจัดขึ้นกลางแจ้ง ทว่าวันนี้กลับมีเมฆฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล ซึ่งถ้าฝนตกขึ้นมางานจะกร่อยทันที แม่นมพรพูดถึงวิธีไล่ฝนแบบคนโบราณ คือให้ลูกสาวคนเล็กที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์นำตะไคร้มาปักกลางแจ้ง ประกายดาวอาสาขอทำหน้าที่นี้โดยไม่ได้คิดอะไร คิดแค่เพียงว่าอยากช่วยให้งานผ่านไปด้วยดี แล้วพอประกายดาวปักตะไคร้ลงบนพื้น เมฆฝนก็ลอยหายไปทันที สร้างความประหลาดใจให้ทุกคน และมันก็เป็นสิ่งยืนยันว่าคำพูดของรติรสที่ว่าประกายดาวนั้นไม่เป็นความจริง ประกายดาวยังบริสุทธิ์อยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์

          ในงานเลี้ยงขันโตกและพิธีบายศรีสู่ขวัญแบบล้านนาในช่วงกลางคืน ประกายดาวปรากฏตัวในชุดล้านนาที่สวยงามมาก โดยได้รับความช่วยเหลือเรื่องชุดจากคุณหญิงนิ่ม คุณชายจันทร์และทุกคนในงานต่างพากันมองประกายดาวเป็นตาเดียว รวมทั้งศิวะด้วย คืนนั้นศิวะจึงหาโอกาสไปดักพบประกายดาวที่หน้าห้องน้ำและพยายามจับมือเธอ เขาจึงเจอฤทธิ์หมัดของประกายดาวเสยเข้าที่ดั้งจมูกอย่างจัง แต่ศิวะก็ยังไม่ละความพยายามที่จะปรับความเข้าใจกับเธอ คุณชายจันทร์ผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าก็เลยเข้าไปห้าม และยังแสดงความเป็นเจ้าของประกายดาวอีกด้วย ก่อนจะพาประกายดาวไปส่งที่ห้อง

          เมื่ออยู่กันตามลำพัง คุณชายจันทร์มอบสร้อยข้อมือเป็นจี้รูปดาวให้ประกายดาวเป็นของขวัญที่เธอช่วยไม่ให้ฝนตก ประกายดาวยิ้มขำ แล้วรอยยิ้มสดใสนั้นก็ทำให้คุณชายจันทร์อดใจไม่อยู่อีกต่อไป เขาจูบเธออย่างอบอุ่น แต่มันทำให้ประกายดาวระทวยจนเป็นลมไปเลย คุณชายจันทร์จึงยิ่งแน่ใจว่าสาวมั่นอย่างประกายดาวไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนจริง ๆ หากพอเขาจะขอเข้าไปดูแลเธอในห้อง ประกายดาวกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เข้า เนื่องจากกลัวตัวเองจะอดใจไม่อยู่ และไม่ต้องการให้คนอื่นมองเธอไม่ดีด้วย

          ต่อมาพงศ์จันทรเห็นว่ารติรสออกมาจากห้องของศิวะในตอนเช้า ก็เลยรู้ว่ารติรสเป็นเพื่อนรักหัก เหลี่ยมโหด แอบเป็นชู้กับสามีของเพื่อนสนิท พงศ์จันทรพอจะเดาสถานการณ์ได้ว่าข่าวฉาวที่เคยเล่นงานประกายดาวน่าจะเป็นฝีมือของรติรส พงศ์จันทรต้องการบอกเรื่องนี้ให้ประกายดาวรู้ก็เลยขอเข้าไปคุยกับเธอตามลำพังในห้อง ประกายดาวก็ยอมให้เข้าแล้วอึ้งมากเมื่อรู้เรื่องรติรสและศิวะจากพงศ์จันทร ประกายดาวเพิ่งจะกระจ่างว่าที่รติรสแสดงท่าทางหวงเธอนั้นไม่ได้หวงแทนอรอุมา ประกายดาวโทรไปบอกเรื่องนี้ให้มิลินทร์รู้เพื่อให้ไปสืบต่อว่าข่าวฉาวมาจากรติรสจริงหรือไม่

          ประกายดาวขอบคุณพงศ์จันทรที่ช่วยคาบข่าวมาบอก พงศ์จันทรก็เลยบอกรักประกายดาว แต่หญิงสาวปฏิเสธ เธอยืนยันว่าคิดกับเขาได้แค่เพื่อนเท่านั้น พงศ์จันทรถามประกายดาวอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอมีใจให้คุณชายจันทร์ใช่ไหม ประกายดาวยอมรับ พงศ์จันทรจึงแน่ใจว่าตัวเองแพ้แล้วแน่นอนก็เลยยอมถอดใจ หากตอนจะออกจากห้องประกายดาว คุณชายจันทร์มาเห็นพอดีจึงน้อยใจประกายดาวมาก หลังจากนั้นเป็นต้นมาคุณชายจันทร์ก็แสดงท่าทางเมินเฉยกับประกายดาว จนประกายดาวนึกเคืองอยู่เหมือนกัน และชักลังเลใจว่าต้องการสเปิร์มจากคนอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ดีหรือไม่

          ระหว่างนั้นมิลินทร์ก็สืบจนรู้แน่ชัดว่ารติรสเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องประกายดาวเป็นเมียน้อยของศิวะ ประกายดาวตั้งใจจะลุยไปเอาเรื่องถึงห้องพัก แต่กลับไปพบรติรสกำลังนัวเนียอยู่กับศิวะและทั้งสองก็เข้าไปในห้อง ประกายดาวจึงนำกล้องถ่ายรูปมาเตรียมถ่ายชอตเด็ดของทั้งคู่เพื่อเอาคืน ทว่าคุณชายจันทร์มาห้ามเอาไว้เสียก่อน ประกายดาวเข้าใจไปว่าคุณชายจันทร์ไม่อยากให้ประกายดาวทำแบบนี้เพราะกลัวชื่อเสียงของโรงแรมจะเสียหาย ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเพราะคุณชายจันทร์รู้ดีว่าสิ่งที่ประกายดาวทำไปจะไม่มีประโยชน์ เพราะรติรสจะหาทางเอาตัวรอดได้แน่ ๆ แต่ประกายดาวกับคุณชายจันทร์ไม่เข้าใจกันจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง

ดาวเกี้ยวเดือน

          ประกายดาวโกรธคุณชายจันทร์มากจึงหนีไปเที่ยวบนดอยกับแก๊งเด็กชาวเขาที่กำลังจะกลับบ้านที่ดอยพอดี ความสวยงามของบรรยากาศบนดอยทำให้ประกายดาวลืมความเศร้าไปได้ แม้เธอจะต้องทนต่อสายตาประหลาดของพิมพ์ไทยที่ชอบมองและพูดจาแดกดันเธอ ไม่เหมือนต้นอ้อที่มีนิสัยน่ารักและเป็นมิตรกับประกายดาวมาก ต้นอ้อบอกว่าคงเป็นเพราะพิมพ์ไทยหึงประกายดาวกับพล เพราะพิมพ์ไทยหลงรักพลมานานแล้ว แต่พลไม่เล่นด้วย ส่วนเจ้านายนั้นเป็นคนนิ่งเฉยและแทบจะไม่พูดอะไรเลย ประกายดาวรู้สึกว่าเจ้านายมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่แน่นอน และแล้วประกายดาวก็ได้คำตอบ เมื่อประกายดาวออกไปถ่ายรูปหิ่งห้อยตามลำพังตอนกลางคืน เธอก็แอบเห็นพล เจ้านาย และพิมพ์ไทยกำลังซื้อขายยากับกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยม ประกายดาวเพิ่งกระจ่างว่าแท้จริงแล้วพวกพลเป็นแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่ใช้การวาดรูปในเมืองบังหน้า และที่พวกเขาชวนเธอมาบนดอยด้วย เพื่อจะใช้เธอเป็นตัวป้องหน้าไม่ให้ตำรวจสงสัย ประกายดาวได้ยินทั้งหมดก็โกรธมากและจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายประเทศชาติ จึงยอมเสี่ยงชีวิตแอบไปถ่ายรูปเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ก่อนจะย่องกลับไปนอนในกระท่อมที่ต้นอ้อนอนอยู่แล้ว ประกายดาวพยายามทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้ใครสงสัยได้

          ขณะเดียวกันคุณชายจันทร์ที่แม้กำลังน้อยใจประกายดาวอยู่ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเธอหายไปไหน จะโทรศัพท์ไปหาก็ไม่กล้า หนำซ้ำพงศ์จันทรก็หายไปพร้อมกันอีกด้วย คุณชายจันทร์คิดไปว่าประกายดาวไปกับพงศ์จันทรจึงเศร้ามาก และท่าทางเศร้าสร้อยของคุณชายจันทร์สร้างความไม่สบายใจให้แม่นมพรและคุณหญิงนิ่ม จึงคาดคั้นคุณชายจันทร์ว่าเป็นอะไร คุณชายจันทร์ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า เขาน้อยใจประกายดาวกับพงศ์จันทร

          แต่คุณหญิงนิ่มที่นัดพบกับเพื่อนสนิทก็ไปพบพงศ์จันทรกำลังดื่มเมามายอย่างคนอกหักอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งซึ่งอยู่กลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่ คุณหญิงนิ่มรีบโทรศัพท์บอกคุณชายจันทร์ว่าประกายดาวไม่ได้ไปกับพงศ์จันทร ก่อนจะช่วยพาเขากลับห้องพักและช่วยดูแลเช็ดหน้าให้เขาสร่างเมา ทว่าพงศ์จันทรกลับตาลายเห็นคุณหญิงนิ่มเป็นประกายดาวจึงคว้าตัวเธอมาจูบ คุณหญิงนิ่มตบพงศ์จันทรอย่างแรงทำให้เขารู้สึกตัว ก่อนคุณหญิงนิ่มจะวิ่งร้องไห้ออกไป พงศ์จันทรรู้สึกผิดก็เลยพยายามจะขอโทษคุณหญิง หากสัมผัสหวานชื่นที่ได้รับจากคุณหญิงนิ่มก็ทำเอาพงศ์จันทรถึงกับเพ้อ และเกิดอาการตกหลุมรักคุณหญิงนิ่มเข้าเสียแล้ว แต่คุณหญิงกลับใจแข็งไม่ยอมพบเขาเลย

          ส่วนคุณชายจันทร์เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองเข้าใจประกายดาวผิด ก็รอคอยให้เธอกลับมาเพื่อขอโทษเธอ แต่อภิเชษฐ์มาบอกคุณชายจันทร์ว่า ประกายดาวพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่เขาสืบสวนอยู่ โดยมี หมวดอรดี เป็นสายลับ ซึ่งหมวดอรดีก็คือต้นอ้อนั่นเอง

          อภิเชษฐ์บอกว่าจากความสนิทสนมของประกายดาวกับแก๊งเด็กชาวเขา ทำให้เขาสงสัยพฤติกรรมจึงสืบประวัติของประกายดาว ก็รู้ว่าเธอมีทรัพย์สมบัติมากมายทั้ง ๆ ที่เป็นแค่ตากล้องธรรมดา หนำซ้ำพี่ชายก็ยังมีบ้านหลังใหญ่โตอยู่ อภิเชษฐ์สันนิษฐานว่าพวกเขาร่ำรวยจากการค้ายาเสพติด เมื่อคุณชายจันทร์รู้ก็ถึงกับอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างประกายดาวจะทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ได้ แต่ในเมื่ออภิเชษฐ์มั่นใจขนาดนี้ คุณชายจันทร์ก็จำเป็นต้องตัดใจเพราะไม่สามารถรักผู้หญิงที่จะทำให้ตระกูลเสื่อมเสียได้

ดาวเกี้ยวเดือน

          ดังนั้นเมื่อประกายดาวกลับมาจากดอย เธอก็รุดไปหาคุณชายจันทร์เพื่อขอเบอร์ติดต่ออภิเชษฐ์ หากไม่ยอมบอกว่าเธอต้องการจะมอบหลักฐานสำคัญให้อภิเชษฐ์ ทว่าคุณชายจันทร์กลับไม่ยอมให้ และยังแสดงท่าทางเมินเฉยกับประกายดาว ประกายดาวทนไม่ได้จึงโพล่งถามออกไปตรง ๆ ว่าเธอทำอะไรให้เขาโกรธ คุณชายจันทร์ก็เลยพูดอ้อม ๆ ว่าขอให้เธอล้มเลิกสิ่งที่กำลังทำอยู่ ทำเอาประกายดาวถึงกับอึ้ง เพราะคิดว่าคุณชายจันทร์พูดถึงเรื่องภารกิจตามล่าหาสเปิร์ม ประกายดาวพยายามพูดให้คุณชายจันทร์เข้าใจสิ่งที่ทำ แต่คุณชายจันทร์ก็ไม่เข้าใจ ทั้งสองจึงทะเลาะกันโดยที่ไม่รู้ว่าพูดกันไปคนละเรื่อง

          ประกายดาวเสียใจที่คุณชายจันทร์ไม่เข้าใจเธอ แล้วมาพบพงศ์จันทรที่กำลังทุกข์ใจกับการตามขอโทษคุณหญิงนิ่มเช่นกัน ประกายดาวร้องไห้ระบายความทุกข์ให้พงศ์จันทรฟัง พงศ์จันทรเลยรู้ถึงแผนตามล่าหาสเปิร์มของประกายดาว หนำซ้ำเขายังเป็นเป้าหมายอันดับสองของเธออีกด้วย ก็ถึงกับหัวเราะก๊ากกับความคิดประหลาด ๆ และแน่ใจแล้วว่าให้เธอเป็นเพื่อนของเขาจะดีที่สุด เพราะตอนนี้คุณหญิงนิ่มกำลังมีอิทธิพลกับหัวใจของเขา เมื่อประกายดาวรู้ก็ให้กำลังใจพงศ์จันทรและช่วยวางแผนให้พงศ์จันทรง้อคุณหญิงนิ่มจนสำเร็จ พงษ์จันทรให้คำมั่นสัญญากับคุณหญิงนิ่มว่าจะเลิกเจ้าชู้ จะมีสายตาไว้มองคุณหญิงนิ่มคนเดียว ซึ่งประกายดาวก็เชื่อมั่นว่าพงศ์จันทรจะทำได้ตามที่พูดแน่นอน

          แล้วประกายดาวก็หาทางติดต่ออภิเชษฐ์จนพบ จึงมอบการ์ดรูปถ่ายให้เขา พออภิเชษฐ์ได้ดูรูปทั้งหมดก็เข้าใจแล้วว่าเขาและหมวดอ้อเข้าใจประกายดาวผิด และประกายดาวก็ถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วต้นอ้อเป็นสายของตำรวจ

          อภิเชษฐ์พยายามติดต่อหาคุณชายจันทร์เพื่อบอกว่าเขาเข้าใจประกายดาวผิด แต่คุณชายจันทร์เอาแต่ทำงาน ไม่ยอมรับโทรศัพท์และไม่ยอมคุยกับใครเลย อภิเชษฐ์จำเป็นจะต้องปล่อยเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพื่อมาวางแผนบุกจับในวันที่จะมีการส่งยาล็อตใหญ่ ประกายดาวขอร่วมมือในภารกิจครั้งนี้ด้วย ตอนแรกอภิเชษฐ์จะไม่ยอมเพราะมันเสี่ยงเกินไป แต่ประกายดาวก็ไม่ยอมเหมือนกัน เธอจะขอมีส่วนร่วมช่วยเหลือประเทศชาติให้ได้ อภิเชษฐ์เลยต้องเป็นฝ่ายยอม

          ประกายดาวกับต้นอ้อขึ้นไปบนดอยอีกครั้งพร้อมกับพล, เจ้านาย, พิมพ์ไทย แล้วพอถึงเวลาต้นอ้อจะวางยานอนหลับประกายดาวโดยใส่ในน้ำดื่มให้ประกายดาวดื่ม แต่ประกายดาวรู้ทันจึงไม่ดื่ม แล้วแอบย่องไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานตอนกำลังจะส่งยากัน ต้นอ้อมาเจอเข้าก็พยายามห้ามประกายดาว ทั้งสองเถียงกันจนพิมพ์ไทยหันมาเห็นเข้า จึงรู้ว่าทั้งคู่เป็นสายของตำรวจ จึงจับประกายดาวและต้นอ้อไปเป็นตัวประกันขณะจะหลบหนีออกนอกประเทศ

ดาวเกี้ยวเดือน

          ตอนที่อภิเชษฐ์รู้ข่าวร้ายเข้า คุณชายจันทร์ก็โทรมาพอดี อภิเชษฐ์จึงเล่าทุกอย่างให้คุณชายจันทร์ฟัง คุณชายจันทร์รีบตามขึ้นไปบนดอยเพื่อไปช่วยประกายดาวด้วยอีกแรงทันที โดยไม่ฟังคำคัดค้านของอภิเชษฐ์เลย อภิเชษฐ์เข้าใจแล้วว่าประกายดาวกับคุณชายจันทร์เหมาะสมกันมาก เพราะบทจะดื้อใครก็ห้ามไม่อยู่เหมือนกัน จนคุณชายจันทร์และเหล่าตำรวจตามขึ้นไปช่วยประกายดาวและต้นอ้อได้สำเร็จ ประกายดาวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พลกับเจ้านายถูกวิสามัญเสียชีวิต ส่วนพิมพ์ไทยต้องจำคุกตลอดชีวิต

          ประกายดาวรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คุณชายจันทร์คอยดูแลและขอโทษเธอที่เข้าใจผิดคิดว่าเธอพัวพันกับแก๊งค้ายา ประกายดาวถึงได้รู้ว่าคุณชายจันทร์ยังไม่รู้เรื่องภารกิจตามล่าหาสเปิร์มของเธอจึงโล่งใจมาก และบอกให้เขาเข้าใจว่าเงินทองมากมายของเธอมาจากมรดกของพ่อแม่ แต่แล้วแดนดินกับครอบครัวที่รู้ข่าวก็บินตามมาเยี่ยมประกายดาว สองพี่น้องคุยกันถึงเรื่องภารกิจตามล่าหาสเปิร์มจากคุณชายจันทร์ ซึ่งรติรสที่สะกดรอยตามศิวะมาเยี่ยมประกายดาวก็ได้ยินพอดี ภารกิจนี้จึงปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ในวันต่อมา

          ประกายดาวไม่ได้อายที่ทุกคนรู้แผนของเธอ แต่เธอทุกข์ใจเพราะคิดว่าคุณชายจันทร์ต้องโกรธเธอแน่ ๆ ทว่าความรักที่คุณชายจันทร์มีต่อประกายดาวมันทำให้คุณชายกลับไม่โกรธเลย คุณชายจันทร์ไปขอร้องให้รติรสเลิกยุ่งกับประกายดาว แต่รติรสไม่หยุด ตราบใดที่ศิวะยังรักประกายดาวอยู่ คุณชายจันทร์ก็เลยนำภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมตอนที่รติรสเข้าห้องศิวะตอนกลางดึกและออกมาตอนเช้าส่งไปให้อรอุมาดู อรอุมาเสียใจมากก็เลยเอาปืนไปยิงรติรสเสียชีวิต และลูกปืนก็ยังไปโดนเป้าของศิวะ ทำให้เขากลายเป็นขันทีไปตลอดชีวิต

          ต่อมาคุณชายจันทร์จัดแถลงข่าวเรื่องนี้ที่โรงแรมของเขาด้วย ประกายดาวไม่อยากให้ชื่อเสียงคุณชายจันทร์เสื่อมเสียไปมากกว่านี้ จึงรีบรุดมาห้าม แต่คุณชายจันทร์ก็พูดต่อหน้านักข่าวหลายสิบชีวิตว่าข่าวที่ออกไปเป็นเพียงคำพูดเล่น ๆ ของประกายดาว ประกายดาวไม่จำเป็นต้องอยากได้สเปิร์มของเขาไปผสมเทียม เพราะเธอกับเขากำลังจะแต่งงานกันแล้ว นั่นเท่ากับเป็นการขอแต่งงานที่ทำเอาประกายดาวตั้งตัวไม่อยู่ แต่เธอก็ยังไม่ตอบ จนคุณชายจันทร์พาเธอไปเดทเป็นครั้งแรก และคุณชายจันทร์ก็บอกให้เธอมั่นใจว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ประกายดาวจึงตอบตกลงในที่สุด

          แต่ตอนแรกหม่อมสุรีย์แม่ของคุณชายจันทร์ไม่อยากจะรับผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างประกายดาวเป็นลูกสะใภ้ แต่พอรู้ว่าประกายดาวมีสมบัติมากมาย หนำซ้ำประกายดาวก็เพิ่งรู้ด้วยว่ายายของเธอเป็นมีศักดิ์เป็นหม่อมและเป็นเพื่อนสนิทของแม่นมพร แต่ไปแต่งงานกับคนธรรมดา นั่นก็เท่ากับว่าตระกูลของประกายดาวก็มีเลือดสีน้ำเงินเหมือนกัน หม่อมสุรีย์จึงยอมรับลูกสะใภ้คนนี้อย่างเต็มภาคภูมิ

          หลังจากผ่านงานแต่งงานไปเพียงหนึ่งเดือน ประกายดาวก็ตั้งท้องทันที แล้วพอลูกน้อยแสนน่ารัก สุขภาพแข็งแรงคลอดออกมาดูโลก ประกายดาวก็มั่นใจแล้วว่าเธอเลือกเจ้าของสเปิร์มไม่ผิดเลยจริง ๆ ติดตามความสนุกเข้มข้นของละคร ดาวเกี้ยวเดือน ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวา 08.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

บทประพันธ์โดย : รอมแพง
บทโทรทัศน์โดย : ปณธี - สุธิสา วงษ์อยู่
กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ดำเนินงานโดย : อรุโณชา ภาณุพันธ์

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ดาวเกี้ยวเดือน

อธิชาติ ชุมนานนท์   รับบท   ม.ร.ว. จันทรภานุ (คุณชายจันทร์)
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ   รับบท   ประกายดาว
กรุณ ซอโสตถิกุล   รับบท   พงศ์จันทร
กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล   รับบท   ม.ร.ว. นิมมานนรดี (คุณหญิงนิ่ม)
วีระกิตติ์ วรัตน์ชยุต    รับบท   ศิวะ
รฐา โพธิ์งาม   รับบท   อรอุมา
รมิดา ประภาสโนบล   รับบท   รติรส
ภัทรภณ โตอุ่น   รับบท   อภิเชษฐ์
อัฐมา ชีวนิชพันธ์   รับบท   มิลินทร์ (จิง)
ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์   รับบท   จิตสุภางค์
พิศมัย วิไลศักดิ์   รับบท   แม่นมพร
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล   รับบท   หม่อมสุรีย์
นิภาภรณ์ ฐิติธนาการ   รับบท   นันทินี
โชติมา นวคุณากร   รับบท   หมวดอรดี (ต้นอ้อ)
ธนกฤต อยู่โต   รับบท   พล
ภาคิน บวรศิริลักษณ์   รับบท   เจ้านาย
จักรพันธุ์ ตัณฑะสุวรรณ   รับบท   เจ๊พีช
วิรพร จิรเวชสุนทรกุล   รับบท   พิมพ์ไทย
ธีระพงศ์ เหลียวรักวงศ์   รับบท   ปุระชัย
สมพล ปิยะพงศ์สิริ   รับบท   เฮียเชา
สุพจน์ จันทร์เจริญ   รับบท   แดนดิน
ธีรภัทร แก้วเกษ   รับบท   ที
ณุศรา ประวันนา   รับบท   นภาวัลย์

ดาวเกี้ยวเดือน

ดาวเกี้ยวเดือน

ดาวเกี้ยวเดือน

ดาวเกี้ยวเดือน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

  

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แฟนคลับ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องย่อละคร ดาวเกี้ยวเดือน อัปเดตล่าสุด 31 มกราคม 2567 เวลา 16:35:49 66,989 อ่าน
TOP
x close