หมาก-เบลล่า จัดหนัก ละครภพรัก ครบรส
“หมาก-เบลล่า” จัดหนัก “ภพรัก” ครบรส (หนังสือภาพยนตร์บันเทิง)
วูบแรกได้ยินชื่อละคร ทั้ง "หมาก" ปริญ สุภารัตน์ และ "เบลล่า" ราณี แคมเปน นึกว่าเป็นละครโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่ไหนได้ พอได้ถ่ายกำกับจริง ๆ ละครเรื่องนี้ครบรสกว่าที่คาด ทั้งผี ซีจี บู๊ ตลก โรแมนติก ดราม่า มาครบ รวมรสความสนุกขนาดที่คนทำงานยังคาดไม่ถึง ถือเป็นงานใหม่ที่จับทั้งสองมาเจอกันครั้งแรก บอกได้เลยว่าควรค่าแก่การชมสุด ๆ แต่ก่อนจะไปชมละคร เรามานั่งเม้าท์กับพระ-นาง คู่นี้กันก่อนดีกว่าค่ะ
การร่วมงานกันครั้งแรกหมาก : เบลล่า ก็ทำงานง่ายมาก ๆ เพราะสนิทกันมีอะไรปรึกษากัน แล้วการเล่นของเขามีการพัฒนาตลอด เก่งนะ ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนที่เรารู้จักก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งเพราะเราก็คุยกันได้ทุกเรื่อง ผมชอบอยู่กับใครแล้วคนนั้นสบายใจเป็นตัวเองและเราเป็นตัวเองก็โอเคนะ
เบลล่า : สนุกมาก หมาก เป็นคนอารมณ์ดีแล้วชอบเอนเตอร์เทนกองถ่ายอยู่แล้ว ไม่รู้ทำไมส่วนตัวชอบมากองถ่าย แล้วถ้าเวลาพักถ้าไม่ง่วงจริง ๆ ก็จะอยู่หน้าเชตอยู่กับทีมงาน เขาก็จะหาอะไรทำ เป็นคนที่ค่อนข้างบันเทิง ทำงานด้วยแล้วสบายใจค่ะ เขาเล่น ๆ ก็จริงแต่พอเป็นฉากที่จริงจังเขาก็ช่วยเต็มที่แล้วก็ส่งอารมณ์เต็มที่ คือแบบไม่มีกั๊กอ่ะค่ะ
บทบาทที่เปลี่ยนไปใน "ภพรัก"หมาก : เป็นตำรวจหนุ่มคือ หมวดเหยี่ยว ครับ เป็นคนกวน ๆ แต่เรื่องนี้จะกวนกับผีคือนางเอกและขี้แกล้ง เพราะเรามีเซนส์อะไรนิดหน่อยสามารถมองเห็นวิญญาณที่ตามเรามาคือนางเอกได้
และในละครบางฉากเหมือนเราคุยคนเดียว ตอนเล่นก็เล่นคนเดียว แปลกดีเพราะปกติเล่นละครต้องมีคนตอบโต้ การถ่ายทำตอนแรก พี่ต้อม ผู้กำกับฯ จะให้ เบลล่า เข้ามาจริง ๆ ก่อน แต่พอถ่ายจริงก็ให้ผมเล่นคนเดียวก็แปลกดีครับเพราะไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อน แต่มันจะเสียเวลาตรงที่ถ่ายบ่อย ถ่ายซ้ำเพราะต้องเก็บภาพแบบเล่นคนเดียวเล่น 2 คน อะไรแบบนั้นครับ
เบลล่า : รับบทเป็น น้ำริน ค่ะ ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุก็จะเป็นสาวเปรี้ยว เป็นลูกคนเดียวลูกคนรวย คือจะทำอะไรไม่ค่อยแคร์ใคร ไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็คือจะเอาแต่เฉพาะคนที่ตัวเองรัก คนอื่นก็คือไม่ค่อยสนใจ พอเกิดอุบัติเหตุปุ๊บความจำเสื่อมก็ไม่รู้ตัวเองเป็นใครมาจากไหนติดนิสัยเดิมมาอยู่แต่ว่าพอมาติดแหง็กกับพระเอกก็เหมือนกับว่าเริ่มโดนขัดเกลาจิตใจ ก็เริ่มดีขึ้น เริ่มมองเห็นข้อเสียของตัวเองมากขึ้น ตอนหลังก็เหมือนกลายเป็นคนใหม่ หลังอุบัติเหตุเราเสียชีวิตเป็นผีที่เกาะติดอยู่กับพระเอกเพราะเขามองเห็นเราคนเดียว ก็ยากมากการเป็นผี คือแบบสัมผัสอะไรไม่ได้เลย แล้วยังความจำเสื่อมอีก คือมันใช้จินตนาการค่อนข้างสูง อย่างเวลาเราจะสัมผัสอะไรแบบนี้ เราต้องรู้สึกว่ามันทะลุได้จริง ๆ มันก็จะมีความอึดอัดตรงนั้นด้วย
เล่นกับซีจีเยอะไหมคะเบลล่า : ก็ค่อนข้างเยอะนะคะ ทั้งเรื่องเหมือนกัน ส่วนของเรามันจะมีทั้งถ่ายแบบ ถ่ายซ้อนเฟรมซ้อนภาพก็คือ ถ่ายภาพเปล่า ๆ และที่เป็นเราที่เหมือนจินตนาการว่ากำลังจะเดินทะลุประตู แต่ว่าความจริงไม่มีอะไร จินตนาการค่อนข้างสูงต้องใช้ความเชื่อค่อนข้างเยอะ ซึ่งส่วนนี้มันไม่ได้ยากเฉพาะเราคนเดียว แต่ว่ายากกับหมากด้วย เพราะว่าจะเข้ากับหมากเยอะที่สุด บางทีต้องเล่นกันหลายรอบก็ต้องช่วยกัน หรือว่าบางทีต้องส่งบทไม่มีตัวเรามีเขาเล่นคนเดียวก็จะช่วยกันส่งค่ะ แล้วก็มีอีกอย่างหนึ่งคือบู๊กับผีด้วยกันเอง อันนี้ก็จะยากดับเบิ้ลขึ้นไปอีก ยากมากหินมากและมีอะไรที่เหนือความคาดหมายเยอะ เหนื่อยทั้งตอนที่เล่นและตอนที่ตัดต่อด้วย ตอนแรกผู้กำกับฯ ผู้จัดฯ ไม่คิดว่าจะต้องใส่ซีจีเยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความที่เป็นผีไปไหนมาไหนก็ต้องแวบไปแวบมาคือต้องหายตัวได้ อยู่ดี ๆ คนอื่นเล่นอยู่แล้วเรากระโดดเข้ามาในฉาก มันเลยทำให้งานชิ้นนี้ไม่ง่าย
เรื่องนี้ตอนแรกที่ติดต่อมาบอกว่าเป็นละครโรแมนติก-คอมเมดี้แต่ ณ จุดนี้หมาก : ตอนแรกที่คุยกันบอกผมว่าเป็นละครรักนะ แต่ก็เหมือนเดิมมีบู๊มียิงมีกระโดดสะพาน โอ...มาหมดเลย มีดราม่าด้วยทุกอย่างเลย แต่เรื่องนี้ก็จะบู๊ต่างจากเรื่องก่อน ๆ เพราะเรื่องนี้เขาตั้งให้เห็นการบู๊ด้วยมือเปล่าให้เห็นการต่อยกันระยะประชิด วิธีการแอ็คติ้งบู๊จะต่างไปจากเดิม มันจะเหมือนจริงมากขึ้น แต่บู๊ยิงปืนมีอยู่แต่เน้นเตะต่อย ซึ่งผมไม่ได้เรียนคิวบีเพิ่มเพราะพอมีพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ต้องไปฝึกดูคลิปวิดีโอที่ผู้กำกับฯ เอามาให้ดูและบอกว่าอยากได้ประมาณนี้ ก่อนถ่ายทำผมก็ฝึกกับคนที่เล่นคิวบู๊กับผมหน้ากอง ก็มันส์นะแต่ยากมากเพราะมันไวและต้องทำให้เหมือนจริงมากขึ้น เหมือนคนที่ตีกันจริง ๆ เตะต่อยกันปึงปัง (พลาดไหม) ก็มีนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไรมาก ถามว่าใครพลาด ก็ผมเนี่ยล่ะไปพลาดเขา ก็ขอโทษขอโพยกันไป เพราะเข้าใจว่าคิวบู๊ตั้งแต่ผมเล่นเรื่อง "ตะวันเดือด" มา "เหนือเมฆ" ผมรู้แล้วว่าคิวบู๊ก็ต้องมีอะไรเจ็บตัวกันบ้าง ถ้าไม่เขาเจ็บก็เราเจ็บ
เบลล่า : เป็นบู๊ผีอ่ะค่ะ (หัวเราะ) มีทั้งเรื่องบู๊เรื่องผี มันก็จะค่อนข้างหลากหลายอารมณ์ บางทีเราก็ไปบู๊กับพระเอกซะงั้น ซ้อนจักรยานเขาไปก็มี มันก็จะเหมือนเป็นติ่งกันไปทุกที่ อย่างเรา เราบู๊กับผีด้วยกัน พระเอกก็มาช่วยเรา พระเอกเห็นเฉพาะเราคนเดียว แต่พอเห็นเราเป็นอะไรลักษณะเหมือนโดนอะไรอยู่ เขาก็จะเข้ามาช่วยแล้วก็เหมือนเขามีพระเขาก็จะยื่นพระใส่อากาศ เพราะเขามองไม่เห็นหรอก คิวบู๊ของผีอย่างของหนูจะไม่มีพลังเหมือนของคนอื่นเป็นคล้าย ๆ ตั้งจิตตั้งใจ แต่จะมีผีตัวอื่นที่เหมือนมีพลังบางทีเราก็โดนปล่อยพลังใส่ เราก็ต้องกระโดดต้องโดนอะไรแบบนี้ค่ะ จะเล่นก็กับอากาศค่อนข้างเยอะ พลาดก็มีนะคะ มันจะมีคล้าย ๆ เหมือนหนังเรื่องจั๊มเปอร์ อยู่ดี ๆ มันก็จะแวบเข้ามาในเฟรม แล้วเราก็เหมือนจะต้องกระเด็นมาจากอีกที่หนึ่งเหมือนกัน จ้ำเบ้า คือมันไม่ล้มจ้ำเบ้าจริง ๆ กลับบ้านเขียวนิดหน่อย แต่ว่าก็เซฟเท่าที่ทำได้
บทนี้ดูเหมือนจะใกล้ตัวหมาก แต่ก็ทำให้หนักใจหมาก : ก็ใกล้เคียงกับตัวเองนิดหน่อย ผมก็เลยเอาตัวเองไปใส่บ้างเรื่องความกวนหรือชอบใช้กำลังชอบบู๊ คือผมไม่ได้เป็นคนรุนแรงขนาดนั้น แต่เราชอบใช้แรงในการเล่นกีฬาก็เอามาใช้ในเรื่องนี้กับฉากบู๊ และเรืองนี้อาจจะมีหนักใจนิดหน่อยแต่ไม่มาก หนักใจเรื่องตัวเองเรื่องวิธีการเล่น จะเล่นเหมือนเดิมไหม เพราะคาแรกเตอร์ในเรื่องนี้เหมือนเรื่องที่แล้วคือ "เหนือเมฆ" ซึ่งเป็นตำรวจมันคล้ายกัน เวลาเล่นแต่ละฉากผมพยายามคิด 2 รอบ รอบหนึ่งคิดแบบหนึ่ง พออ่านอีกรอบพยายามทำให้มันไม่เหมือนอีกแบบ หรือบางทีก็เล่น 2 อย่างให้ผู้กำกับฯ ดูแล้วแต่เขาจะเลือกแบบไหน ไม่เหนื่อยแต่สนุกดี
แต่เบลล่าเนี่ยไกลตัวมากเบลล่า : มาก ๆ ค่ะ บทมันไกลตัวมาก ต้องคุยกับพี่ต้อมเยอะ กับพี่นกหญิง ก็เยอะเหมือนกัน พี่นกหญิงเขาจะผ่านอะไรมาค่อนข้างเยอะ ผ่านการแสดงมาเยอะเขาก็จะแบบ พี่ว่ามันน่าจะเป็นประมาณนี้ หรือว่าลองเอามาปรับอย่างนี้น้องเข้าใจ ก็มีคนรอบข้างช่วยเยอะมากค่ะ
ความทรงจำกับ "ภพรัก"หมาก : ถ้าจะถามถึงฉากประทับใจในละครเรื่องนี้ ผมบอกได้เลย คือฉากบู๊เพราะผมชอบ และในเรื่องนี้มีบู๊หลากหลาย มียิงกันมีระเบิดมีต่อยกัน ซึ่งบางคนอาจจะไม่อยากเล่นฉากบู๊เพราะกลัวร้อนหรือกลัวพลาด แต่สำหรับผมสนุกมาก ถึงผมจะเคยเล่นบู๊มาบ้างแต่อันนี้เป็นบู๊แปลกหน่อย ซึ่งผมก็นิยามไม่ได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นละครโรแมนติก-ดราม่า หรือแอ็กชั่น เพราะมันมีทุกอย่างเลย อยากฝากให้ติดตามชม โดยเฉพาะฉากบู๊ผมว่าผู้ชายดูแล้วคงชอบ แต่ผู้หญิงก็ดีได้ ขนาดผมเล่นเองยังติดใจ
เบลล่า : อยากเห็นที่สุดคือบู๊ในน้ำ บู๊ใต้น้ำ เรื่องราวประมาณเรานั่งอยู่ริมน้ำกับพระเอกกำลังกุ๊กกิ๊ก อยู่ดี ๆ เราโดน พี่แมน (ดีเจ แมน) ซึ่งเป็นผีอีกตัว อยู่ดี ๆ ก็โดนดึงไปใต้น้ำ เหมือนกับว่าเขาพยายามทำลายดวงจิตเรา แล้วคือมันพัลวันถ่ายยากมาก ถ่ายในสระแล้วมันยากมากด้วยความที่กล้องตัวเดียวแล้วรับได้ทีละฝั่ง แล้วก็มาเป็นภาพกว้างอีก คือถ่ายยาวนานด้วยค่ะ แล้วก็มีพระเอกลงมาช่วยอีกทีหนึ่ง ซีนนี้ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงเหมือนกันค่ะ เพราะมีแบบตั้งพักกองไปถ่ายอย่างอื่นด้วย เพราะว่านักแสดงไม่ไหวแล้วคือเหนื่อยมากแล้ว วันนั้นมันจะมีถ่ายรวมในน้ำภายในวันเดียวไงคะ ก็จะมีหลายซีนหลายช็อตหน่อยก็เต็มเวลากองคือ 7 โมง ถึง 4 ทุ่ม เรียกว่าต้องล้างตากันเลยทีเดียวค่ะ
ซีนนี้คือซีนที่รอคอยมากของหมากก็มีบู๊อีกซีนหนึ่งต่างหาก ได้ดูมอนิเตอร์ก็สวยมาก ตอนนั้นคือน้ำค่อนข้างใส แต่ถ่ายไปทั้งวันมันเริ่มขุ่นไงคะ แต่อันนั้น ด้วยความที่เป็นฉากตอนกลางวันด้วย คือผู้ชาย 2 คนบู๊กัน 2 คนสวยมาก และบู๊ใต้น้ำด้วย ตัวเราเองว่ายน้ำได้แต่ไม่เก่งค่ะ และก็ไม่เคยดำน้ำ ใช้สน็อกเกิ้ลไม่เป็นทั้งหนูแล้วก็หมาก ก็จะเรียกว่าดำสดค่ะ ก็จะหายใจอยู่บนน้ำก่อนพอ 1-2-3 ฮึบ แล้วค่อยดำลงไปแล้วก็ถ่าย ป้อนออกซิเจนใต้น้ำไม่ได้ ทำแล้วสำลักน้ำ ที่สำคัญลงน้ำเนี่ยใส่ส้นสูงด้วยค่ะ อย่าพลาดจริง ๆ ซีนนี้ค่ะ
ท้ายที่สุดทั้งคู่ออกปากเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าลืมติดตามชมละคร "ภพรัก" ซึ่งกำลังมีคิวจ่อออกอากาศเร็ว ๆ นี้ พร้อมออกตัว หากจะจิ้น เพราะฟินกับละครเปิดบ้านใหม่ เบลล่า-หมาก ทั้งคู่ยินดีนะจ๊ะ!!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฉบับที่ 1893 ปีที่ 41
วันที่ 12-25 พฤศจิกายน 2557
