นักฆ่าขนตางอน
เมื่อปี 2552 ฉลอง ภักดีวิจิตร แห่งค่าย บางกอก ออดิโอ วิชั่น สามารถสร้างเรตติ้งให้กับช่อง 7 มาเป็นอันดับหนึ่งด้วยผลงานการกำกับเรื่อง เสาร์๕ พอมาถึงปี 2553 ผู้กำกับมือทองขอสร้างเรตติ้งให้ทะลุจออีกครั้งด้วยผลงานเรื่อง นักฆ่าขนตางอน ละครแอ็คชั่นสไตล์ไทย ๆ ที่ถูกใจคนดูทั้งประเทศแน่นอน เพราะงานนี้บิ๊กหลองขอโชว์ฟอร์มบู๊สุดมันส์ในรูปแบบหญิงเก่งซึ่งไม่ค่อยมีใครสร้างกันบ่อยนัก ถึงแม้จะได้ผู้หญิงมาเป็นนักฆ่าแต่ขอบอกว่าลีลาของแต่ละคนแจ่มเกินร้อยไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายแม้แต่นิดเดียว เพราะใจสั่งมาให้เล่นบทเสี่ยงตายด้วยตัวเองโดยไม่เกรงกลัวว่าจะเกิดอันตรายถึงกับชีวิต เพราะยิ่งเล่นก็ยิ่งมันส์จึงลืมเรื่องของอุบัติเหตุว่ามันเกิดได้ทุกเวลาถึงแม้ทุกคนจะคิดว่ามันปลอดภัยแล้วก็ตาม
นักฆ่าขนตางอน สร้างจากบทประพันธ์ของ ดาเรศร์ นักเขียนนวนิยายบู๊ที่ผู้อ่านรู้จักชื่อเสียงกันดี โดยมี ณพุทธ สุศรี คนเขียนบทโทรทัศน์ชื่อดังจากเรื่อง พระจันทร์ลายพยัคฆ์ เป็นคนเขียนบทเรื่องนี้เช่นกัน เพราะฉะนั้นแฟน ๆ มั่นใจได้เลยว่าต้องสนุกสุดมันส์ทุกฉากทุกตอน ยิ่งได้ผู้กำกับแนวแอ็คชั่นตัวพ่อเป็นคนกำกับด้วยตัวเอง คอละครบู๊ไม่มีผิดหวังเหมือนทุกเรื่องที่ผ่านมา เพราะ ฉลอง ภักดีวิจิตร ใส่ความบู๊แบบมันส์หยดโดยไม่ใช้ CG เข้ามาช่วยแต่อย่างใดไม่ว่าจะเป็นฉากยิงหรือฉากระเบิดทุกอย่างคือขอจริง ที่ผู้ชมจะได้ยินทั้งเสียงและภาพกันแบบสด ๆ ถึงแม้จะเป็นแค่หนังจอเล็กแต่ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้จอเงิน
สำหรับฉากแอ็คชั่นที่เป็นฉากโชว์ก็มีหลายฉากอาทิ ฉากที่นางเอกถูกหัวหน้านักค้ายาเสพติดเปิดเผยตัวให้พระเอกรู้ว่านางเอกคือ นักฆ่าขนตางอน ซึ่งฉากนี้จะมีนักแสดงเข้าฉากกันหลายคนอาทิ วี – วีรภาพ, หยก – ธัญยกันต์, หมิว – สิริลภัส, แก้ม – กวินตรา, กัญจน์ ภักดีวิจิตร, สุเชาว์ พงษ์วิไล, พงศนาถ วินศิริ และ อาฉี เสียงหล่อ การถ่ายทำฉากนี้ทางบิ๊กหลองได้ยกกองไปถ่ายทำที่ท่าจอดเรือขนาดใหญ่ย่านปากน้ำ และที่น่าดูไม่แพ้กันอีกฉากหนึ่งก็คือฉากผู้ร้ายบุกชิงตัวทีมนักฆ่า SK7 คนหนึ่งในโรงพยาบาล การถ่ายทำฉากนี้นักแสดงเข้าฉากกันเต็มเพียบทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย นอกจากนี้ยังมีฉากต่อสู้ของนักฆ่าสาวอย่าง หยก – ธัญยกันต์ กับ ต่าย – ชัชฎาภรณ์ อีกด้วยจะสนุกขนาดไหนต้องติดตามชมเพราะยิงกันมันส์ทะลุจอแน่นอน
งานนี้ ฉลอง ภักดีวิจิตร ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ได้เผยถึงผลงานเรื่องล่าสุดให้ฟังว่า "ที่มาทำละครแนวนี้ก็เพราะอยากจะเปลี่ยนรสเปลี่ยนชาติ ให้ผู้หญิงมาเล่นแอ็คชั่นบ้าง เพื่อคนดูจะได้ตามลุ้นว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหลังจากที่พระเอกซึ่งเป็นตำรวจได้รู้ว่านางเอกคือนักฆ่าและยังเป็นคนที่ตัวเองรักด้วย เราก็ต้องมาลุ้นว่าเขาจะทำอย่างไรนางเอกถึงจะไม่ถูกจับ
การถ่ายทำฉากบู๊ของผู้ชายกับฉากบู๊ของผู้หญิงมันต่างกัน เพราะมันจะมีการลุ้นมากกว่า เวลาที่นางเอกบู๊คนดูก็จะเอาใจช่วยไม่ให้นางเอกเป็นอะไร ซึ่งมันก็เป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่เราคิดว่าคนทั้งประเทศคงลุ้นเอาใจช่วยนางเอกเช่นกัน การที่เราเอาผู้หญิงมาบู๊เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชาย เราจึงต้องใช้มุมกล้องช่วยเวลาถ่ายทำแต่ตัวนักแสดงเองเขาก็เต็มที่กับงานมาก
อย่างต่าย (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) เขาจะมีความมุ่งมั่นในการแสดงมาก ส่วนหมิว (สิริลภัส กองตระการ) ก็ไม่ต้องห่วงเพราะเขาจริงจังอยู่แล้ว ส่วนหยก (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ซึ่งเป็นนางเอกและต้องบู๊เยอะกว่าคนอื่น เราต้องเคี่ยวเข็ญเขามากเป็นพิเศษหน่อย เพราะเขายังไม่เคยผ่านการบู๊มาก่อน เรื่องนี้เราไม่ได้เน้นที่จะให้ผู้หญิงต้องดูเซ็กซี่ แต่จะเน้นตามธรรมชาติที่มันจะออกมามากกว่า
เรื่องความหนักใจในการทำงานไม่หนักใจถึงแม้จะมีฉากใหญ่ ๆ มากมายหลายฉาก แต่เราจะหนักใจในเรื่องของการถ่ายทำมากกว่า เพราะละครบู๊มันต้องใช้เวลาในการถ่ายทำนานทุกอย่างมันถึงจะออกมาสนุก ที่ผมไม่ชอบใช้ CG ฉากระเบิดหรือยิงกันเพราะมันดูแล้วไม่ค่อยสมจริงซักเท่าไหร่"
ทางด้าน หยก ธัญยกันต์ ที่ได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกละครหลังข่าวเรื่องแรกในบทของนักฆ่าขนตางอน เธอเผยความรู้สึกให้ฟังว่า "ตอนที่มาถ่ายทำครั้งแรกหยกยอมรับว่าเป็นอะไรที่เหนื่อยและยากมากเหมือนร่างกายเรามันยังไม่พร้อมที่จะรับ พอกลับไปถึงบ้านหยกรู้สึกว่าตัวของเราทั้งเจ็บทั้งระบมไปหมดเลย แต่พอถ่ายไปเรื่อย ๆ มันก็เริ่มชินเพราะตัวหยกเองต้องเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองมากขึ้น
พอมาเล่นละครของอาหลองแล้วหยกไม่กลัวที่จะต้องไปเล่นละครเรื่องอื่นอีก เพราะละครเรื่องนี้เป็นอะไรที่ยากสุด ๆ สำหรับหยกแล้ว ตอนแรกก็รู้สึกเข็ดเหมือนกันกับละครบู๊ แต่พอถ่ายไปนาน ๆ เราเริ่มชินมันก็เริ่มสนุกขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันมีอะไรให้เราเล่นเยอะดีเรื่องนี้มีทั้งขึ้นสลิง ฟันดาบ ยิงปืน ดำน้ำมีหมดเลย เรื่องพลาดคิวมันก็มีบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของการเล่นละครบู๊ ที่เจ็บมากที่สุดก็ตอนที่โดนพี่ต่ายต่อยโดนดั้งแล้วก็มีหัวโนบ้างเพราะพลาดคิวชนกันเอง ซึ่งเรื่องอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน
ตอนที่เห็นตัวเองในชุดนักฆ่าหยกรู้สึกชอบนะเพราะเป็นอะไรที่ดูเท่ดี เพราะเป็นชุดสีดำและยังมีอุปกรณ์อะไรต่าง ๆ อีกมากมายซึ่งมันดูลงตัวดีแต่หยกขอบอกว่าเป็นอะไรที่ร้อนและอึดอัดมาก ๆ เพราะชุดมันจะรัดและแน่นไปหมดเลยเวลาที่ถ่ายทำก็ต้องพยายามทำใจว่ามันเย็น ยิ่งตอนนี้อากาศร้อนด้วยไม่ว่าจะเอาน้ำแข็งมาโปะหรือเอาพัดลมมาพัดก็เอาไม่อยู่หรอกค่ะ"
ส่วน วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ที่ทิ้งบทคุณชายหันมาจับปืนอีกครั้งได้เปิดใจว่า "ในเรื่องผมรับบทเป็นตำรวจชื่อรณภพเป็นลูกชายของนักฆ่ายาเสพติดแต่ตัวของเราไม่ได้ไปทางนั้นและคดีที่เราตามจับอยู่คดีหนึ่งคือคดีนักฆ่าขนตางอน และตัวเราเองก็ไปปิ๊งผู้หญิงคนหนึ่งโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นนักฆ่าขนตางอน
ละครบู๊เรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ที่ผมเคยเล่นมาคือจะใช้ปืนในการยิงมากเป็นพิเศษ เพราะปืนเป็นของคู่กายของตำรวจ แต่เรื่องอื่นผมจะเตะ ๆ ต่อย ๆ มากกว่า เรื่องบู๊ในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างหนักเหมือนกันเพราะเป็นบู๊แบบจริงจังและคนก็เยอะด้วยไหนจะเรื่องของเอฟเฟ็กต์อีก แต่พอเห็นภาพที่ออกมามันโอเคสมกับที่เราเหนื่อยเราเสี่ยงกับมันไปคือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างดี
ละครเรื่องนี้ไม่ได้เป็นละครแอ็คชั่นจ๋าซะทีเดียว เพราะมันจะมีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างผมกับหยกด้วย ตอนที่เรายังไม่รู้ว่าเขาเป็นนักฆ่า เรื่องหนักใจในการแสดงและการถ่ายทำก็ไม่มีอะไร เพราะผมเคยร่วมงานกับคุณอาฉลองมาแล้วก็รู้ว่ามันอย่างไร เรื่องเจ็บตัวก็มีบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ใครที่เป็นแฟนละครของผมต้องติดตามดูเรื่องนี้ให้ได้รับรองว่าสนุกและมันทุกฉาก และผมก็ขอฝากน้องหยกด้วยเพราะเขาตั้งใจทำงานอย่างดีมากกับการเป็นนางเอกเรื่องนี้ครับ"
นักฆ่าขนตางอน ไม่ได้มีแค่ วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ และ และหยก – ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ เป็นตัวเดินเรื่องเท่านั้น ยังมี โน๊ต – วัชรบูล ลี้สุวรรณ, หมิว – สิริลภัส กองตระการ, แมทธิว ดีน ฉันทวานิช, ต่าย – ชัชฎาภรณ์ ธนันทา, แก้ม – กวินตรา โพธิจักร, กัญจน์ ภักดีวิจิตร และนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีชื่อเสียงมาร่วมกันสร้างความสนุกจนล้นจออีกด้วย ติดตามชมผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ ฉลอง ภักดีวิจิตร ได้ทุกคืนวันพุธ – พฤหัส หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 สี
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
บางกอก ออดิโอ วิชั่น
