สื่อนอกตีข่าวซีรีส์ฮอร์โมน เป็นกระแสวิจารณ์หนักในไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Hormones วัยว้าวุ่น

             แม้ว่าซีรีส์เรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น จะจบไปแล้ว แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ซีรีส์เรื่องนี้ดูเหมือนจะยังคงมีอยู่เหมือนเป็นควันหลงไม่สร่างซา ทั้งจากฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการสร้างภาคต่อซีรีส์สะท้อนความเป็นจริงเรื่องนี้ และจากฝ่ายที่ออกมาติว่าไม่เหมาะสมเนื่องจากมีภาพที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนมากมาย แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าซีรีส์เรื่องดังกล่าว จะไม่ได้ถูกพูดถึงเฉพาะในสังคมไทยเท่านั้น เพราะสื่อต่างประเทศก็ตีข่าวนี้เช่นกัน โดยระบุว่าเป็นซีรีส์สะท้อนความจริงในสังคมที่ถูกจวกเละไม่น้อยเลยทีเดียว

             เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2556 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับซีรีส์ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ว่า นับตั้งแต่ซีรีส์ฮอร์โมนฉายเป็นตอนแรก ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงกลายเป็นประเด็นฮอตที่เป็นที่พูดถึงไปทั่วประเทศ เพราะภาพที่ปรากฏในซีรีส์เรื่องนี้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นภาพสะท้อนความจริงของวัยรุ่นวัยเรียนในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นการสูบบูหรี่ก่อนเข้าเรียน การมีเพศสัมพันธ์ในห้องน้ำ การนินทาคนที่ทำเรื่องฉาว และบรรยากาศในวิชาเรียนที่แสนน่าเบื่อ


             แต่ด้วยความที่ประเทศไทยยังเป็นสังคมอนุรักษ์นิยม ทำให้ซีรีส์ฮอร์โมน ที่เป็นซีรีส์แนวเดียวกับเรื่อง สกินส์ ของชาวอังกฤษ ถูกจวกเละในเรื่องของการเสนอภาพการสูบบุหรี่ การจูบกันของเยาวชน ขณะที่หลายฝ่ายได้ออกมาเรียกร้องให้มีการเซ็นเซอร์และตัดฉากที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ โดยเฉพาะฉากที่นักเรียนชายไม่ยอมใส่ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และฉากที่นักเรียนหญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์แล้วหันหน้าหาคลินิกทำแท้งเถื่อน นับว่าเป็นฉากที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านมากที่่สุด

              แม้จะถูกตำหนิในเรื่องของภาพที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว แต่ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ ได้เปิดเผยว่า ซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นทุกซอกมุมของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเซ็กส์ในวัยเรียน การใช้ยาเสพติด ความแปรปรวนทางอารมณ์ที่เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายทั่ว ๆ ไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยถูกหยิบยกมาพูดถึงไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่โรงเรียน สังคมไทยถูกปิดหูปิดตามาเป็นเวลานานแล้ว ปัจจุบัน ครูไทยไม่ได้สอนเยาวชนเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ เพราะกลัวว่าจะเปิดทางให้เยาวชนไปมีเซ็กส์ก่อนวัยอันควร ทั้งที่จริง ๆ แล้วการไม่ได้สอนเยาวชนในเรื่องนี้นั่นแหละที่ทำให้เด็ก ๆ ต้องไปเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ส่วนเรื่องฉากนักเรียนหญิงทำแท้งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และมีการเรียกร้องให้มีการแบนนั้น เขาคิดว่าผู้ใหญ่กำลังปิดตาตัวเองกับความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม โดยตอนนี้สถิติการทำแท้งของวัยรุ่นไทยสูงถึง 100,000 รายต่อปี ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

              ทั้งนี้ จากสถิติการตั้งครรภ์ในวัยเรียนทั่วโลก พบว่า ประเทศไทยครองอันดับ 2 ประเทศที่มีวัยรุ่นตั้งครรภ์ในวัยเรียนมากที่สุดในโลก และมีสถิติผู้ติดเชื้อเอดส์มากที่สุดในเอเชีย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น การเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนไทย กลับมีชั่วโมงเรียนเฉลี่ยแค่ 8 ชั่วโมงต่อปีเท่านั้น และครูก็ไม่ได้สอนการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย แต่กลับไปเน้นในเรื่องการข่มใจตัวเองเพื่อไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนมากกว่า


              ด้านนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ได้เปิดเผยว่า ฮอร์โมนเป็นซีรีส์ที่แสดงให้เห็นปัญหาสังคมในความเป็นจริง แต่กลับสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนอย่างมาก เราไม่สามารถพูดคุยเรื่องเพศศึกษากับเด็ก ๆ ได้ในสังคมไทย ทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรลงไป และควรจะทำอย่างไรเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่วัยรุ่นหญิงส่วนใหญ่ที่ไปทำแท้ง ก็เพราะไม่รู้ว่าจะป้องกันตัวเองไม่ให้ท้องได้อย่างไร ไม่รู้ว่าใช้ถุงยางอนามัยอย่างไรด้วยซ้ำ

              ขณะที่ทางด้าน แพตตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา นักแสดงวัย 22 ปี ผู้รับบทเป็นขวัญในเรื่อง ได้เปิดเผยว่า ตัวละครแต่ละตัวในซีรีส์เรื่องนี้ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นมาจากวัยรุ่นในสังคมจริง ๆ ทั้งนั้น ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมได้คิด ได้เรียนรู้ เป็นเหมือนกระจกสะท้อนสังคมวัยรุ่น การตัดส่วนที่ไม่เหมาะสมออกไปมันก็ป้องกันได้แค่ในหมู่วัยรุ่นที่คิดไม่เป็นเท่านั้น