x close

โซฟี่ อัปสรสิริ กดดันขึ้นแท่นนางเอกเต็มตัว ในละคร นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น
นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

โซฟี่-อัปสรสิริ กดดันขึ้นแท่นนางเอกเต็มตัว ! ทุ่มเกินร้อยทั้งร้องทั้งเต้นในละคร นางฟ้าเปื้อนฝุ่น (ดูมันดี)


          แม้จะผ่านงานละครมาแล้วหลายเรื่อง แต่ไม่มีเรื่องไหนที่จะกดดันนางเอกสาววัยใสอย่าง โซฟี่-อัปสรสิริ อินทรคูสิน กับการขึ้นแท่น นางเอกเต็มตัว เรื่องแรกในละครเพลง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ของค่ายดูมันดี โดยผู้จัดฯ ผู้กำกับฯ วุธ-อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ที่ตั้งใจเจียระไน สาวโซฟี่ให้กลายเป็น นางฟ้า ในละครเรื่องนี้ให้จงได้ เนื่องจากเธอต้องรับบทสองคาแรคเตอร์ พาขวัญ และ ขวัญใจ เด็กสาวที่ใฝ่ฝันอยากเป็นหางเครื่อง และเมื่อ หญิงสาว ลูกสาวรัฐมนตรีมีชีวิตราวนางฟ้าปลอมลงมาศึกษาคนบนดิน ปีกเปื้อนฝุ่นแลกเกียรตินิยม เรื่องราวสนุกสนานจึงเกิดขึ้น !
นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับสาวโซฟี่ในกองถ่ายแถวคลองสาม จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโลเกชั่นหลัก เธอบอกเล่าเรื่องราวการทำงานในละครเรื่องนี้ไว้อย่างละเอียดเลยล่ะ !


          "เล่นละครกับช่อง 7 มา 4 เรื่องแล้ว ได้แก่ คือหัตถาครองพิภพ (จบสากล), วัยมันส์พันธุ์อสูร, ฉันทนาสามช่า แล้วล่าสุดก็เรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น เป็นเรื่องแรกที่ได้เป็นนางเอกละครเย็นเต็มตัวเลยค่ะ พอรู้ก็ตื่นเต้นมาก ความที่เป็นละครแนวคอเมดี้ ที่ไม่เคยเล่นก็เลยกลัวนิดนึง ต้องไปทำการบ้านดูว่าเขาเล่นคอเมดี้กันยังไง แล้วในเรื่องมีเล่นดราม่า และโรเมนติกด้วย และรู้อีกว่าเป็นละครเพลงด้วย ยอมรับว่ารู้สึกดีใจที่จะได้ร้องเพลงอีกแล้ว แล้วเป็นเพลงลูกทุ่ง ความรู้สึกมันท้าทายเราแน่นอน แต่ก็พร้อมอะไรที่เป็นเรื่องของดนตรี หนูก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ แม่เองก็ดีใจที่ลูกจะได้ร้องลูกทุ่งอีกแล้ว เพราะแม่ชอบ มันเป็นความรู้สึกหลายอารมณ์ เป็นปลื้ม มีความกลัวนิด ๆ กังวลหน่อย ๆ แต่ก็รู้สึกสนุกกับมันค่ะ"

พูดถึงเรื่องชอบร้องเพลง เคยผ่านการประกวดมาหรือเปล่า

          "ไม่เคยประกวดค่ะ แต่เป็นคนที่อยู่กับดนตรีตั้งแต่เด็กเรียนเต้นมา 13 ปี ตอนเด็ก ๆ เรียนบัลเล่ย์ แจ๊ส พอโตขึ้นมาก็เริ่มเรียนพวกสตรีท ฮิปฮอป แล้วก็พวกเร็กเก้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งแม่ ทั้งพี่ (ชิน ชินวุฒิ) และเราชอบกันทั้งครอบครัว เวลาอยู่บ้านก็จะเปิดดนตรีเต้นกัน เรียกว่าโตขึ้นมากับดนตรี และการเต้นเลยก็ว่าได้ การเต้นจึงอยู่ในสายเลือด และจิตใจของหนูเลยค่ะ"

          "ส่วนเรื่องการร้องก็ชอบนะ แต่อาจจะไม่มั่นใจเท่ากับการเต้น ซึ่งเรื่องการร้อง แม่เป็นคนเห็นว่าเรามีแววก็เลยให้ไปฝึกเรียนร้องเพลง ซึ่งมันก็ค่อย ๆ ดีขึ้นจริง ๆ เรียนมา 5 ปีก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ก็ยังเรียนอยู่ค่ะ ทำให้หนูเก่งขึ้นมากทั้งเรื่องการร้อง การออกเสียง และการสื่ออารมณ์ตัวเองในเพลง"

เรียนทั้งร้องและเต้น เคยคิดมั้ยว่าจะเอามาใช้ในการเข้าวงการบันเทิง

          "ก็เคยคิดอยากเป็นนักร้อง เป็นนักแต่งเพลงนะ แต่พอมีโอกาสเข้ามาที่ช่อง 7 ได้เล่นละครแล้วจู่ ๆ ได้เล่นละครเพลงด้วย มันรู้สึกว่า โอ้โห...ทุกสิ่งที่เราทำและเราชอบมันรวมเป็นหนึ่งอย่างที่เราต้องทำ ยอมรับว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีใจมาก มีความสุข และฟินกับการเล่นละครเรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น มาก ๆ ค่ะ"

นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

การร้องเพลงลูกทุ่งยากมั้ย

          "ยากค่ะ ตั้งแต่เด็กเราก็ฟังเพลงลูกทุ่งเยอะมาก เพราะที่บ้านคุณพ่อและคุณย่า ท่านจะฟังอยู่แล้ว เราก็ได้แต่ฟังไม่เคยร้องหรือเต้นแบบหางเครื่อง เพราะรู้สึกยาก ก็เลยกลัว พวกเอื้อน ลูกคอต่าง ๆ มันเป็นแบบเอกลักษณ์ความเป็นไทยจริง ๆ จะร้องให้เหมือนเขาก็รู้สึกท้าทายมาก พอได้มีโอกาสร้อง และฟังที่ตัวเองร้องก็ทำให้รู้ว่าตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน ทั้งนี้ต้องขอบคุณครูเอ๋ที่ช่วยแนะนำเวลาร้องเพลงแนวนี้ต้องใช้เสียงแบบไหน โดยปกติเสียงหนูจะออกสไตล์ฝรั่ง ทุ้ม ๆ แนวอาร์แอนด์บี ก็เลยต้องมาดัดเสียง พยายามหาเนื้อเสียงให้ออกมาฟังเป็นลูกทุ่งให้มากที่สุดค่ะ"

จากการได้โชว์ร้องเพลงหลายเพลงในละคร ฝันอยากเป็นนักร้องหรือไม่


          "ถ้าเป็นได้ก็อยากนะคะ แต่ความจริงได้ร้องเพลงประกอบละครเพียงแค่นี้หนูก็ดีใจเพราะได้ทำในสิ่งที่เรารัก ไม่จำเป็นต้องไปออกอัลบั้มก็ได้ ขอแต่ได้มีโอกาสโชว์ฝีมือตัวเอง ทำให้คนได้มีความสุขจากการฟังเพลงของเรา เพียงแค่นี้ก็โอเคแล้ว ถ้าละครเรื่องนี้ได้เดินสายก็ยิ่งดี เพราะหนูเป็นคนชอบอยู่บนเวที ได้สื่อสารได้เล่นกับคนค่ะ"

เรื่องนี้ร้องเพลงประกอบละครจำนวนกี่เพลง

          "ที่แต่งใหม่มี 4 เพลง แล้วมีอีก 1 เพลงร้องเพลง โปงลางอินดี้ กับ พี่ยิ่งยง ยอดบัวงาม ในฉากค่ะ โดยใน 4 เพลงที่ร้องเพลง สามช่าอินเตอร์ เป็นเพลงคู่ ร้องกับพระเอก แล้วก็มีเพลงช้า เธอคือดวงใจ เพลงนี้จะทำเป็น 2 เวอร์ชั่นของหนูกับของพระเอก นอกจากนี้ก็มีเพลง ความฝัน แนวจะออกบรอดเวย์หน่อย ๆ แล้วก็มีอีกเพลงเป็นเพลง แก๊งนางฟ้า"

          "ซึ่งเป็นเพลงไตเติ้ลของละครเรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น เลยจำได้ว่าตอนบวงสรวงละครได้ยินเพลงแก๊งนางฟ้า ที่ตัวเองร้อง ยังตกใจเพราะเสียงไม่เหมือนเราเลย ก็รู้สึกตื่นเต้นว่าเราทำได้เหมือนกันนะ ซึ่งเพลงที่ร้องยากมากที่สุด หนูว่าเพลง เธอคือดวงใจ ยากที่สุด พอเป็นเพลงลูกทุ่งที่ช้ามันก็จะมีลูกเอื้อน ลูกคอต้องชัดเจน แล้วก็ต้องพยายามสื่ออารมณ์ด้วย เป็นเพลงที่เพราะมาก เข้าถึงใจมาก อินมาก ท้าทายที่สุดค่ะ"

 นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

พี่ชาย (ชิน ชินวุฒิ) ฟังแล้วว่าไงบ้าง

          "พี่บอกว่า...น้องเราเป็นนักร้องลูกทุ่งไปแล้ว ดูท่าทางปลื้ม ส่วนแม่ก็เปิดฟังในรถตลอดบอกว่าชอบค่ะ ซึ่งหนูรู้สึกภูมิใจมากที่เราสามารถทำได้ตามความคาดหวังทุกคน"

ถามถึงข่าวเม้าท์นิดหนึ่ง รู้สึกยังไงที่คนมองว่าเราเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้เพราะพี่ชาย (ชิน ชินวุฒิ)

          "คิดว่ายังไงก็ต้องมีคนคิดแน่ ๆ ถามว่ารู้สึกกดดันมั้ย ก็รู้สึกตั้งแต่เข้าวงการเลย เพราะเห็นว่าเราเป็นน้องศิลปินก็ย่อมมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ซึ่งตรงนี้หนูไม่เห็นด้วยนะคะ เพราะมีคนเรียกมาแคสติ้งเราก็มาแคสปกติแล้วช่องชอบขอให้มาเซ็นสัญญา ซึ่งก็เหมือนคนอื่นทั่ว ๆ ไป จะกดดันก็ตรงที่เราเป็นน้องพี่ชินเราก็ต้องมีพรสวรรค์เท่าเขาหรือต้องทำให้ดีเท่าเขาให้ได้มีแค่จุดนี้ที่หนูกดดัน"

          "แต่ด้านพี่ชินเขาไม่กดดัน แม้เป็นน้อง แต่พี่เขารู้ว่าพรสวรรค์ของหนู หรือทักษะของหนูมันเป็นของตัวหนูเอง เพราะฉะนั้นจะทำได้ดีแค่ไหนมันก็คือตัวหนูเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หนูต้องทำให้ดีที่สุด เพราะมีคนคาดหวังเราแล้ว เราก็ต้องทำให้ได้ทำให้ดีสมกับผู้ใหญ่มองเห็นอะไรในตัวเราและให้โอกาสค่ะ เรื่องคำแนะนำ ปกติพี่เขาจะไม่แนะนำในเรื่องการแสดงเท่าไหร่ เหมือนอยากให้เราไปค้นหาเอง แต่ให้คำแนะนำเรื่องการวางตัวต้องนับถือผู้ใหญ่ ทำตัวอย่างไรก็ดีนะ"

ในเรื่องต้องเต้นแนวหางเครื่องด้วย

          "แม้จะมีทักษะในการเต้นมาเยอะ แต่พอมาเต้นเป็นหางเครื่องจริงมันจะคนละอย่าง การสื่อทางสีหน้า มือไม้ หรือขา มันก็จะมีความต่างจากพวกบัลเล่ต์ พวกสตรีท แต่เราก็สามารถนับทักษะการนับจังหวะมาช่วยได้ แล้วหนูก็ไปเซิร์ส หาดูพวกหางเครื่องเต้นด้วย พอเวลาจะถ่ายฉากเต้นครูที่คิดท่าเต้นก็จะมาช่วยดู ซึ่งเราก็ซ้อมไม่นานก็ถ่ายได้ เพราะแต่ละคนก็เป็นศิลปินมีพื้นฐานการเต้นอยู่แล้ว ต่างคนก็เลยสะบัดกันสุด ๆ ทำให้สนุกรู้สึกเอ็นจอยกับการทำงานค่ะ"

นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

คาแรคเตอร์ของตัวละคร พาขวัญ เป็นอย่างไร


          "เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองและมั่นใจว่าตัวเองทำอะไรก็ได้ แล้วก็เป็นลูกคุณหนู ความที่เป็นนักศึกษาปี 4 (แต่ชีวิตจริงปี 2 โซฟี่ก็ยอมรับว่าทำให้เธอต้องทำตัวให้โตขึ้นมาหน่อย) แล้วกำลังทำ Thesis เรื่องการเต้น เพราะอยากเลือกอะไรที่ไม่เคยทำก็เลยอยากทำเรื่องของหางเครื่อง แต่คุณแม่ไม่ชอบเพราะกลัวคนอื่นเห็นแล้วจะไปพูดไม่ดี พาขวัญก็เลยตัดสินใจปลอมตัวเข้าไปในวง ชาญชลธี แล้วก็บอกแม่ว่าไปไปออกแคมป์เรียนรู้เรื่องบัลเล่ต์เพื่อเอามาทำ Thesis คุณแม่ก็บอกว่าดีมาก แต่ไม่รู้ว่าลูกสาวปลอมตัวเป็น ขวัญใจ ไพเราะ เข้าไปอยู่ในวงลูกทุ่งแล้ว"

ยากง่ายแค่ไหน

          "ยากพอสมควร เวลาเข้าฉากในแต่ละฉากมันจะมีจังหวะฉาก มีจังหวะของซีน ซึ่งพี่วุธ (อัษฎาวุธ) ช่วยหนูเยอะมากในการจับจังหวะ เพราะเมื่อก่อนหนูไม่เคยคิดเลยว่าหนึ่งฉากมันมีจังหวะแบบไหน เรารู้ว่าหนึ่งฉากต้องอารมณ์แบบนี้นะแต่เราไม่เคยคิดเลยว่าหนึ่งฉากจะมีจังหวะยังไง ก็ได้พี่วุธคอยช่วยคอยแนะนำ อย่างฉากนี้มันต้องตื่นเต้น หรือฉากนี้ต้องแฮปปี้ เราก็พยายามเอาวิชาเหล่านี้ซึมเข้าไปในตัว"

เรื่องการพูดเร็วเป็นปัญหาหรือเปล่า

          "มีปัญหานิดหน่อย เพราะความที่เราเป็นคนใต้ มาจากภูเก็ต สายพูดเร็ว บางทีก็เลยพูดรัว บางทีเจอฉากพูดยาว ๆ หนูก็จะพูดอย่างเร็ว ก็โดนติงว่าไม่เอานะอย่าพูดเร็วเดี่ยวจะฟังไม่เข้าใจ หนูก็เลยต้องพยายามพูดช้าลงเพื่อทำความเข้าใจกับประโยคนั้นให้ดีขึ้นจะได้สื่ออารมณ์ออกมา"

มีฉากไหนที่เราอยากพรีเซ็นต์ให้คนต้องดู


          "ไม่ใช่ฉาก แต่เป็นช่วงหนึ่งของเรื่อง ในเรื่องเราต้องไปสามงานในหนึ่งวัน มีทั้งไปร้านหมูกระทะ ซึ่งก็ไปกับวง ต้องไปกินข้าวกับคุณแม่ด้วยก็ต้องกลับไปเป็นคุณหนู แล้วก็ต้องกลับไปหาคุณครูที่มหาวิทยาลัยอีก มันต้องเปลี่ยนชุดอุตหลุดมาก ก็เหนื่อยนะ แต่ก็สนุกดีค่ะ  นอกจากนี้พวกฉากเอ็มวีก็ชอบ เพราะทุกคนจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ถ่ายกันแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน แต่ทุกคนก็เต็มที่กันมากทั้งร้องทั้งเต้นเป็นอะไรที่มันสนุกไม่มีใครยอมใคร ภาพก็ออกมาสวยหนูชอบอยากให้ดูกันค่ะ"

นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

พูดถึงพระเอก ปรัชญ์ ปรมิณ กันหน่อย

          "เราสนิทกันมาก เพราะเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ก็รู้สึกดีใจได้มาแสดงด้วยกันอีก ความรู้เหมือนได้ร่วมงานกับเพื่อน ในเรื่องต้องมีฉากพูดกัดกันเยอะมากก็รู้สึกสนุกดี ถ้าให้เม้าท์พี่ปรัชญ์ ๆ ปกติเป็นคนเครียดง่าย ด้วยความที่ตั้งใจทำงานมากพอเล่นไม่ได้ก็จะกดดันตัวเอง...แล้วจะบ่นว่าทำไมตัวเองทำไม่ได้ หนูก็จะคอยปลอบว่า เธอทำได้แต่อย่าไปรีบ คือบางทีพี่เขากลัวว่าจะทำให้กองถ่ายช้าหรือเปล่า แต่ถ้าเวลาว่างไม่ถ่ายทำพี่เขาก็ชอบแกล้งหยอดมุข 5 บาท ใส่เราก็ไม่รู้เรื่อง เขาก็จะขำ เป็นคนเฮฮามาก แต่พอเข้าโหมดทำงานก็จะทำงานค่ะ"

รู้สึกไงที่ถูกจับให้เป็น คู่จิ้น

          "ก็ตลกดีค่ะ เรื่องที่แล้วก็ถูกจับให้เป็นคู่จิ้นพุ่งปลิ้น ช่วงนั้นถ่ายละครด้วยกันตลอดก็เลยพากันทานข้าวเลยอ้วน แต่คนก็ชมว่าน่ารัก  พอหลังจากนั้นแฟน ๆ ก็อยากให้ร่วมงานกันอีกแล้วพอประกาศว่า ได้เล่นเรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น หลายคนก็บอกว่ารอติดตามนะ มันก็เป็นความรู้สึกที่อิ่มใจที่ยังมีแฟนรอผลงานเราทั้งคู่อยู่ค่ะ"

นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

คาดหวังไว้แค่ไหนกับการเป็นนางเอกเต็มตัวในละครเรื่องนี้

          "อยากบอกว่าทั้งกดดันและคาดหวังมาก แต่ก็หวังว่าด้วยความพยายามของเราและทุก ๆ อย่างที่เราทำลงไปคนจะชอบ อยากบอกว่าเป็นละครที่นั่งดูกับครอบครัวได้แล้ว ร้องเพลงตาม ซึ่งถ้าหนูเวลาเห็นภาพคนที่ร้องเพลงตามเราได้หนูจะรู้สึกชอบมาก ๆ แสดงว่าเขาติดตามผลงานเรา และมีความสุขในการชมผลงานของเรานะ"

ในสายตาของเราคิดอย่างไรกับอาชีพนักแสดง

          "มันเป็นประสบการณ์ที่สามารถช่วยหนูในชีวิตได้หลาย ๆ อย่าง ช่วยหาเงินเพื่อช่วยครอบครัว ช่วยให้เรารู้จักคนมากขึ้น ได้เจอคนหลาย ๆ แบบ ได้เล่นบทบาทหลากหลาย ทำให้เราสามารถเรียนรู้ชีวิตคนที่เราเจอ ได้รู้จักการใช้ชีวิตมากขึ้นด้วยค่ะ"

ถ้ามีโอกาสเลือกบทได้อยากเล่นบทอะไร


          "อยากเล่นบทบู๊ค่ะ เห็นคนอื่นเล่นก็รู้สึกว่ามันน่าจะเหนื่อยนะ แต่มันก็เป็นอะไรที่ท้าทายทั้งอารมณ์ และท้าทายทั้งร่างกาย เพราะตอนถ่ายทำเราก็อาจไม่ได้อยู่กับแอร์ ถ่ายในป่า อาจต้องกระโดดข้ามรถอะไรนี้เป็นอะไรที่อยากเล่นมาก เพราะเราเป็นคนที่ชอบอะไรลุย ๆ เห็นเพื่อน ๆ เซฟฟานี อาวะนิค ได้เล่น หักลิ้นช้าง มันทำให้อยากเล่นละครบู๊มาก เลยทำให้ชอบดูละครบู๊ด้วย ดูแล้วอิน"

นางฟ้าเปื้อนฝุ่น นางฟ้าเปื้อนฝุ่น

วกมาถึงเรื่องเรียนกันหน่อย

          "ตอนนี้เรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยรังสิตอินเตอร์ คณะบริหารธุรกิจ ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางมหาวิทยาลัยก็ช่วยเราเยอะในการเลือกวิชาได้ เพราะเรามีคิวต้องถ่ายละคร ถ้าวันไหนไม่ใช่คิวถ่ายหนูก็จะจัดตารางลงเรียนให้เยอะที่สุด 3 วัน 6 วิชา เทอมหน้าหนูก็จะเรียน 3 วัน 7 วิชา หนูต้องเรียนไรก็จะอัดเข้าไปเลย หนูเป็นคนชอบเรียน และก็ชอบทำงานด้วย ก็เลยจะพยายามให้เวลาเท่า ๆ กันทั้งคู่ ซึ่งหนูเป็นเด็กทุนก็ต้องมีคะแนนสูง 3.5 ขึ้นไป ในช่วงนี้หนูได้ 4.00 อยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะคะ"

มีเคล็ดลับเรียนดีมั้ยอ่ะ

          "หนูเป็นคนถ้าเข้าห้องเรียนต้องตั้งใจเรียน เพราะถ้าไม่ตั้งใจในห้อง เมื่อกลับมาอ่านหนูก็จะไม่ได้อะไร แต่ถ้ามุมกลับกันอยู่ในห้องตั้งใจมาก ก็จะจดโน้ตพอกลับมาอ่านมันก็จะเข้าใจเหมือนกัน ซึ่งมันก็ไม่เสียเวลาไง อีกทั้งเราอยู่ในกองถ่ายก็ต้องอ่านท ต้องทำอารมณ์  บางทีเอาหนังสือสอบมาอ่านในกองมันเลยจะมึน เลยตัดสินใจว่าเวลาอยู่ในห้องจะตั้งใจเรียน เวลาทำงานก็ต้องตั้งใจทำงาน ถ้าสอบก็ต้องทบทวนค่ะ ซึ่งแม่ก็บอกว่าลูกไม่ต้องเครียดกับการเรียนขนาดนั้น แม่ไม่กดดันแต่หนูกลับกดดันตัวเองว่าเราต้องทำได้"


ฝากทิ้งท้ายโปรโมทละครกันหน่อย

          "อยากฝากละครเรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ก็อย่างที่บอกไปเป็นนางเอกเรื่องแรก เป็นบทที่ท้าทาย การแสดงหลากหลายมีมุมทั้ง คอเมดี้ โรแมนติก ดราม่าก็มีหมด เลยอยากให้ทุกคนและทุกครอบครัวได้ดูกัน เหมือนเราเป็นเพื่อนกันคุยกันทางหน้าจอ เป็นละครที่สนุก เพลงเพราะ นักแสดงและผู้จัดจัดเต็ม ครบทุกรสชาติ เต็มอิ่มกันแน่นอนค่ะ"

          ย้ำหนักแน่นขนาดนี้ คงต้องเอาใจช่วยสาวโซฟี่ด้วยการติดตามชมละคร นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.35 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20 น. ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และผลงานต่าง ๆ ของเธออย่างต่อเนื่องแล้วล่ะ !

ข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โซฟี่ อัปสรสิริ กดดันขึ้นแท่นนางเอกเต็มตัว ในละคร นางฟ้าเปื้อนฝุ่น อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2559 เวลา 19:09:33 3,019 อ่าน
TOP