เรื่องย่อละคร รักเร่

รักเร่ รักเร่






ละครรักเร่ ละครช่อง7

บทประพันธ์โดย : โสภาค สุวรรณ
บทโทรทัศน์โดย : นวดี สถิตยุทธการ
กำกับการแสดงโดย : กฤษณะ แสงสร้อย
ผลิตโดย : บริษัท ฮันนี่ แอนด์ เฟรนด์ ออกาไนซ์ จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : ม.ล.สราลี กิติยากร
ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี

เรื่องย่อรักเร่
 
           วายูน(เขมนิจ  จามิกรณ์) นักศึกษาสาวไทยวัย 20 ที่มาเรียนวิชาแปลภาษาและล่าม อยู่ ณ มหาวิทยาลัยเวียนนา ประเทศออสเตรียนั้น การได้ทำงานเป็นล่ามในองค์การสหประชาชาติ คือความฝันอันสูงสุดของเธอ แต่ความฝันของเธอนั้นก็ใช่ว่าจะกลายเป็นจริงได้ง่าย ๆ เพราะนอกจากความยากของศาสตร์ที่เธอเลือกเรียนแล้ว เธอก็ยังต้องอดทนต่อการเป็นอยู่ที่แร้นแค้นในต่างแดน ทั้งนี้เป็นเพราะวายูนนั้นเป็นเด็กกำพร้า เติบโตขึ้นมาได้จากการเลี้ยงดูของปู่ผิน (สรพงศ์ ชาตรี) อาภักดิ์ (ทูน หิรัญทรัพย์)  และคุณอาพร้อมจิต (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ) ซึ่งช่วยกันเลี้ยงเธอ ภายหลังที่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอเสียชีวิต ทำให้ชีวิตของวายูนในต่างประเทศค่อนข้างอัตคัดขัดสนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอไม่ต้องการรบกวนด้านการเงิน และสำนึกในบุญคุณที่ทางคุณปู่ และคุณอาทั้งสองได้ดูแล และให้ความรักดั่งลูกนับตั้งแต่วันที่เธอได้สูญเสียทั้งแม่ และพ่อไป แต่เธอก็ไม่เคยบ่น สู้อดทน และมุ่งมั่นที่จะคว้าปริญญาไปให้ผู้เป็นปู่ และคุณอาทั้งสองได้ชื่นชมให้จงได้

          เช้าวันหนึ่งวายูน ตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวไปทำงานพาร์ทไทม์ แต่เธอกลับมาพบไฮดี้ (มาริสา แอนนิต้า) เพื่อนรักที่เรียนร่วมชั้นล้มหมดสติลงที่กลางห้อง จังหวะที่คาร์ลมาพอดีจึงพาไฮดี้ไปโรงพยาบาล ส่วนวายูนซึ่งรับจ้างทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารไทยในชั่วโมงที่ว่างจากการเรียน ต้องไปทำงานให้ทันก่อนที่จะโดนหักค่าจ้างรายวันถ้าทำงานไม่ครบชั่วโมง ด้วยใจเป็นห่วงอาการป่วยของไฮดี้เพื่อนรัก เป็นเหตุให้ในขณะที่เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวียนนา และคุณหญิงที่กำลังนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอยู่นั้น วายูนได้ทำน้ำหกรดเสื้อคุณหญิงทูต ทำให้คุณหญิงทูตโกรธมาก และให้เจ้าของร้านอาหารไล่วายูนออกจากงานทันที

          ท่านทูตไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณหญิงทำ จึงได้พยายามช่วยเหลือวายูน คุณหญิงทูตกลับมองเป็นว่าท่านทูตมีใจให้กับนักศึกษาสาวที่ชื่อวายูนคนนี้ จึงไม่ชอบหน้าวายูนอย่างแรง วายูนต้องตกงานที่ร้านอาหารไทยอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงไปปรึกษานิโคไล (อัษฎา พานิชกุล) เพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียน ซึ่งเป็นคนรัสเซียที่แอบรักวายูน และคอยช่วยเหลือวายูนเสมอ ให้ช่วยกันดูใบประกาศสถานที่เปิดรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์ แต่ก็ต้องผิดหวัง เย็นวันนั้นวายูนกลับมาที่ห้องเช่า พบว่าไฮดี้ป่วยหนักขึ้น เธอกับคาร์ล แฟนของไฮดี้ จึงช่วยกันพาไฮดี้ส่งโรงพยาบาล วายูนจึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ไฮดี้ป่วยหนักนี้เพราะไปทำแท้งมา คาร์ลบอกว่าเขา และไฮดี้ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันทั้งคู่ จึงยังไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวร่วมกันในเวลานี้ วายูนอึ้งกับความคิด และการกระทำของเพื่อนรักของเธอ 

          และเมื่อไฮดี้ฟื้นขึ้นมา เธอก็บอกวายูนว่าวิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมอย่างเรา การมีลูกอาจทำให้เรียนไม่จบ อนาคตที่วาดหวังไว้อาจพังทลาย และแม้จะเสียใจเพียงไร แต่ก็ไม่เห็นทางออกที่ดีกว่านี้ และว่า..ถ้าวายูนไม่มาตกอยู่สถานะเช่นเดียวกันกับเธอ วายูนก็คงไม่เข้าใจหรอก วายูนนิ่งไป เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเป็นเธอ เธอจะตัดสินใจอย่างไร จะทำแท้งอย่างเช่นไฮดี้หรือไม่ แต่วายูนเชื่อว่า เธอคงจะไม่ชิงสุกก่อนห่าม มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับใครก่อนเวลาอันควร แม้นิโคไลจะถามว่าถึงคนนั้นจะเป็นคนที่รักวายูน และวายูนรักก็ตามอย่างงั้นหรือ วายูนได้แต่พยักหน้าพร้อมบอกว่า ตอนนี้ยังไม่คิดถึงเรื่องนี้ นอกจากขอมุ่งเรื่องเรียนให้จบเร็วที่สุด  เพื่อคุณปู่ และคุณอาทั้งสองของเธอจะได้ภาคภูมิใจในตัวของเธอ ทำให้นิโคไลยืนยันกับใจของตนเองว่า แม้วันนี้วายูนจะยังไม่รักเขา นอกจากการเป็นเพื่อนรักเท่านั้น แต่เขาก็จะรักเธอ และรอวันที่เธอจะรัก และมอบใจให้เขาให้จงได้

          รามิล รณลักษณ์ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) ด็อกเตอร์หนุ่ม หน้าตาดี อนาคตทางวงการทูตไกล เพิ่งรับตำแหน่งเลขาฯโทประจำสถานทูตไทยในกรุงเวียนนาคนใหม่ ท่านทูต (ท่านอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์) จึงได้แนะนำให้เขาไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของออสเตรีย เพื่อจะได้รู้จักประเทศนี้ได้ดียิ่งขึ้น และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของวายูนให้เขาติดต่อเพื่อพาเที่ยว ปรัชญา (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนสนิทของรามิล ซึ่งมีธุรกิจส่งออกเป็นกิจการของครอบครัวตัวเอง ทำให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ จึงแนะนำให้รามิลจ้างนักศึกษาไทยที่อยู่ในกรุงเวียนนาเป็นคนนำเที่ยว เพราะค่าจ้างจะถูก และพวกนักศึกษาเหล่านี้ จะรู้จักสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของออสเตรียค่อนข้างดีทีเดียว

           รามิลเห็นด้วย ในขณะที่ดามพ์ (ภาณุ สุวรรโณ) เพื่อนสนิทของเขาอีกคนกลับยุให้เขาจ้างนักศึกษาสาว ๆ อย่างที่ปรัชญาแนะนำ แต่ให้เป็นเพื่อนเที่ยว และเพื่อนนอนไปในเวลาเดียวกัน ทำให้ปรัชญาไม่พอใจที่ดามพ์เห็นผู้หญิงเป็นเพียงของเล่น เพื่อนทั้งสองของรามิลจึงมีปากเสียงกัน รามิลจึงตัดบทว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้หญิง ถ้าคนที่เขาจ้างมายินดีจะเป็นทั้งเพื่อนเที่ยว และเพื่อนนอน รามิลก็ไม่ว่าอะไร รามิลจึงได้ตัดสินใจจ้างวายูนตามคำแนะนำของท่านทูต นิโคไลไม่เห็นด้วยที่วายูนจะรับจ้างพารามิลออกตระเวนเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ในออสเตรียด้วยความเป็นห่วงในตัวผู้หญิงที่เขารัก แต่ลึก ๆ ในใจนิโคไลกลัวว่าวายูนจะเผลอใจไปกับนักการทูตหนุ่มคนนั้น ที่มีทั้งรูปสมบัติ  และคุณสมบัติครบถ้วน ผิดกับตัวเขาที่เป็นเพียงนักศึกษาชาวรัสเซียจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งวายูนมีความจำเป็นต้องหางานพิเศษเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นรายได้สำหรับค่าใช้จ่ายต่อเดือน เธอจึงยืนยันที่จะทำงานนี้ เพราะเธอไม่ต้องการรบกวนเงินจากทางบ้านที่เมืองไทยมากเกินความจำเป็น

          คุณหญิงนิต้า (สุพรรษา เนื่องภิรมย์) ภรรยาท่านทูต เป็นเพื่อนรักกับคุณนิตยา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ซึ่งเป็นน้าแท้ ๆ ของรามิล และเลี้ยงดูรามิลมาตั้งแต่ยังเล็ก หลังจากที่พ่อแม่ของรามิลตาย คุณนิตยานั้นเป็นสาวใหญ่ไม่แต่งงาน เพราะมีความเชื่อว่าผู้ชายที่เข้ามาหาเธอนั้นล้วนแล้วแต่หวังสมบัติของเธอมากกว่าจะจริงใจด้วย หนำซ้ำคุณนิตยายังเอาความคิดความเชื่อนี้ฝังหัวรามิลอีกตั้งแต่เด็กว่า ผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัวรามิลนั้น ล้วนแล้วแต่หวังผลประโยชน์จากรามิลทั้งสิ้น เพราะรามิลนั้นทั้งหน้าตาดี มีฐานะ เป็นทายาทมหาเศรษฐี และมีหวังจะได้เป็นทูตที่หนุ่มที่สุดของไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว คุณนิตยาจึงฝากให้คุณหญิงนิต้า คอยเป็นหูเป็นตาแทนเธอ  คอยดูว่ามีสาวใดมาเกาะแกะหลานชายของเธอหรือไม่

          คุณหญิงนิต้าเมื่อรู้ว่ารามิลจะจ้างนักศึกษาหญิงพาเที่ยว ก็มองในแง่ร้ายขึ้นมาทันที กลัวว่านักศึกษาหญิงผู้นั้นเมื่อรู้ว่ารามิลเป็นใคร และมีฐานะอย่างไร ก็อาจจะคิดจับแต่งงานหวังยกฐานะทางลัด พอคุณหญิงนิต้ามารู้ว่านักศึกษาหญิงที่รับจ้างนำรามิลเที่ยวคือวายูน ซึ่งคุณหญิงนิต้าไม่ชอบหน้าวายูนเป็นทุนอยู่แล้ว เลยพาลพาโลเอากับท่านทูตที่เป็นคนแนะนำวายูนให้กับรามิล ทำให้สองสามีภรรยาต้องมีปากเสียงกันอยู่เนือง ๆ คุณหญิงนิต้าจึงตัดสินใจโทรไปบอกเรื่องนี้กับคุณนิตยาที่เมืองไทย ทำให้คุณนิตยาตัดสินใจปลีกตัวจากธุรกิจอันเร่งร้อนของเธอ รีบบินมาหาหลานชายที่ออสเตรียทันที เพื่อไปขวางการกระทำของหลายชายที่ทำเรื่องขัดใจเธอ และพยายามให้รามิลมาสนใจ ม.ร.ว.จุลมณี (พิมพิศา จิราธิวัฒน์) ที่เธอหมายหมั่นหวังให้เป็นหลานสะใภ้เพียงผู้เดียว

          ฝ่ายคุณหญิงจุลมณีนั้นมีความสนิทสนมกับปรัชญาเพื่อนของรามิล ตั้งแต่ก่อนที่ปรัชญาจะเดินทางมาต่างประเทศ ทั้งสองคนรักกัน ภายใต้ความกดดันของท่านหญิงจงกลนี ท่านแม่ของคุณหญิงจุลมณีที่ไม่ปลื้ม เพราะหวังที่จะได้รามิลมาเป็นลูกเขย ด้วยมีฐานะร่ำรวยมีหน้ามีตาทางสังคม และมองเห็นว่ามีอนาคตที่ก้าวไกลทางหน้าที่การงาน จึงพยายามขัดขวางความรักของทั้งคู่ แม้อุปสรรคกำลังคืบคลานเข้ามา วายูนก็ได้พารามิลไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญ ๆ หลายแห่งของออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์เก่าแก่อย่างสเตฟานโดม พระราชวังเบลเวอแดร์ สตัดพาร์ค และที่อื่น ๆ อีกมากมาย ตลอดระยะเวลาที่วายูนทำหน้าที่นำเที่ยวนี้ รามิลก็แอบหลงปลื้มในความสวย และเก่งในการใช้ภาษาต่างประเทศ ซึ่งวายูนสามารถพูด และฟังได้ดีถึง 3 ภาษาเลยทีเดียว 

          และการที่วายูนกำพร้าพ่อผู้เป็นที่รัก และผู้นำของครอบครัวตั้งแต่เด็ก เมื่อได้มาใกล้ชิดกับรามิล ผู้ชายที่มีความสุภาพ อ่อนโยน และดูอบอุ่นก็เริ่มตกหลุมรักรามิล ในที่สุด ณ บ้านพักริมทะเลสาบเมืองฮอลล์สตัด รามิลกับวายูนจึงมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งต่อกัน ขณะเดียวกันเพียงเพ็ญ (ม.ล.สราลี กิติยากร) ซึ่งเพิ่งมาเรียนต่อด็อคเตอร์ที่นี่ด้วยทุนของบริษัทที่คุณนิตยาถือหุ้นใหญ่อยู่ ก็สนใจในตัวรามิลเพียงเพื่อหวังจะไต่เต้าฐานะทางสังคมให้กับตัวเอง แต่รามิลไม่เคยสนใจ มักอ้างเรื่องของงานที่เข้ามายุ่งมาก  ดามพ์ที่มาหารามิลเจอเพียงเพ็ญครั้งแรกรู้สึกชอบ จึงถือโอกาสตีสนิทกับเพียงเพ็ญเสียแทน เพียงเพ็ญอาศัยความฉลาดรู้เท่าทันพฤติกรรมของทุกคน รวมถึงรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดแม้แต่เรื่องของวายูเธอก็เก็บทุกอย่างไว้ในใจ ละเดินแผนการณ์ที่เธอมองเป็นเกมส์ เพื่อกำจัดทุกคนที่เข้ามาในชีวิตรามิลอย่างชาญฉลาด และแนบเนียนโดยไม่มีใครรู้  นอกจากดามพ์ที่คอยเตือนสติ และเป็นเพื่อนเธอคนเดียวเท่านั้น ในวันที่วายูนไปฝากครรภ์ โดยมีนิโคไลไปเป็นเพื่อน เพียงเพ็ญได้สะกดรอยตามไปเพื่อถ่ายรูป และนำภาพมาตัดต่อโดยใส่หน้าของรามิลพาวายูนไปฝากท้องที่แผนกสูตินารี เพื่อส่งไปให้ท่านหญิงจงกลนี ท่านหญิงทรงเห็นภาพ กริ้วจนเส้นเลือดในสมองแตกเป็นอัมพฤกษ์ สร้างความสะใจให้กับเพียงเพ็ญเป็นอย่ายิ่งที่แผนสำเร็จ

          ท่านหญิงจงกลนีทรงทราบเรื่องที่รามิลไปเที่ยวกับวายูนสองต่อสอง และหายไปด้วยกันหลายวัน จึงไม่พอพระทัยจนล้มป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล และเมื่อคุณนิตยาบินมาถึงออสเตรีย เธอพยายามใช้เส้นสายทุกวิถีทางเพื่อที่จะย้ายรามิลให้ไปทำงานที่ประเทศอื่นในยุโรปแทน แต่กว่าจะทำเรื่องย้ายได้ก็เกิดเหตุอันไม่คาดคิดมาก่อน นั่นคือวายูนท้อง ! วายูนมารู้ตัวว่าท้องเมื่อเป็นลมล้มไปหลังจากเรียนหนักติดต่อกันมาหลายชั่วโมง โชคดีที่นิโคไลรับร่างของวายูนไว้ได้ทันก่อนจะฟาดพื้น และพาไปหาหมอทันที
   
          วายูนรู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดลงที่กลางใจเมื่อรู้ว่าเธอตั้งท้องกับรามิล ผู้ชายคนแรกในชีวิตที่สอนให้เธอรู้จักคำว่า รัก แต่เธอก็สับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น  เธอจึงตัดสินใจโทรบอกเรื่องนี้แก่รามิล แต่ทว่ารามิลงานยุ่งมาก ทั้งงานสถานทูต และงานที่คุณนิตยา และคุณหญิงแกล้งไหว้วานให้ทำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีเวลาไปพบกับวายูนอีก โดยมีปัทมา (นาตาลี เดวิส) คนสนิทของคุณนิตยา กับกัญญารัตน์ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) คนสนิทของคุณหญิงนิต้าช่วยด้วยอีกแรง ยิ่งปัทมานั้นเคยหลงรักรามิลมาตั้งแต่แรกสาว แต่รามิลไม่เคยมีตามองเธอเลยสักครั้ง ปัทมาจึงคิดว่าเมื่อเธอไม่ได้รามิล เธอก็จะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนได้เขาไปง่าย ๆ เช่นกัน ปัทมาจึงเป็นตัวที่คอยช่วยคุณนิตยากีดกันวายูนไม่ให้เข้าถึงตัวรามิลได้
   
          ส่วนนิโคไลปวดใจมากเมื่อรู้ว่าวายูนท้อง เขารักเธอ และเฝ้าถนอมเธอไม่เคยล่วงเกินแม้สักครั้ง เพราะรู้ว่าวายูนยังเป็นผู้หญิงเอเชียที่หัวเก่า แต่เมื่อเขารู้ว่าเธอท้องกับรามิล ผู้ชายชาติเดียวกัน และแม้เขาจะปวดใจเพียงใด แต่ความรักที่เขามีต่อวายูนนั้นมากเกินกว่าที่เขาจะซ้ำเติมวายูนได้ลงคอ นิโคไลจึงอาสาพาวายูนไปพบรามิลที่บ้านพักของเขา วายูนขอให้นิโคไลรออยู่ข้างนอก เพราะเธออับอายในเรื่องที่จะพูดกับรามิล จึงไม่อยากจะพูดต่อหน้านิโคไล ในบ้านพักของรามิล วายูนได้พบกับรามิลเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้พบหน้าเขามานานถึง 1 เดือน รามิลเห็นวายูนก็ดีใจรีบเข้ามาโอบกอดอย่างคุ้นเคย ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการกระทำทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ในสายตาของคุณนิตยาทั้งสิ้น ! และแล้ววายูนก็บอกกับรามิลว่าเธอกำลังท้องลูกของเขา แต่แทนที่รามิลจะดีใจ เขากลับยืนนิ่งอึ้งตะลึงงันค้างอยู่ วายูนรู้สึกปวดใจกับอากัปกิริยานั้นของรามิลเป็นอันมาก  เธอนึกว่าเขาจะดีใจ ไม่ใช่เงียบงันเช่นนี้

          และในจังหวะที่ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ คุณนิตยาก็ก้าวเข้ามา ! คุณนิตยาแกล้งใช้ให้รามิลไปหยิบของในห้อง แล้วคุณนิตยาจึงฉวยจังหวะนี้หยิบเงินให้วายูนเป็นเงินจำนวนมาก เพื่อให้ไปเอาเด็กในท้องออก และใช้ดูแลรักษาตัวจนกว่าจะหายดี แล้วเธอยังพูดจาดูถูกเหยียดหยามวายูนอีกหลายคำที่บอกให้รู้ว่าวายูนนั้นไม่มีคุณสมบัติใดที่คู่ควรกับหลานชายสุดที่รักของเธอเลย และแม้รามิลจะกลับเข้ามาเห็นวายูนรับเงินก้อนโตจากคุณน้าของเขา เขาก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี วายูนเห็นรามิลเงียบตลอด วายูนจึงคิดว่ารามิลเห็นด้วยกับน้าของเขาที่จะให้เธอเอาลูกออก วายูนโกรธจนตัวสั่น ผิดหวังในตัวผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธออย่างที่สุด วายูนโยนเงินที่ได้รับทั้งหมดทิ้ง และตบหน้ารามิลก่อนจะวิ่งออกไป แล้ววายูนก็เป็นลมอยู่ที่หน้าบ้านรามิลนั่นเอง นิโคไลวิ่งเข้ามารับร่างของวายูนเอาไว้ได้ทัน 


          คุณนิตยาเห็นอย่างนั้น เลยยิ่งยุรามิลว่า บางทีลูกในท้องของวายูน อาจเป็นลูกของหนุ่มรัสเซียคนนั้นก็ได้ อย่าได้ตกหลุมพรางของผู้หญิงที่คิดจะยกฐานะตัวเองอย่างวายูนอย่างง่าย ๆ หลังจากกลับจากบ้านของรามิล วายูนไม่พูดไม่จาอะไร เธอตกอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างน่าเป็นห่วง เมื่อถึงห้องพักเธอเข้าห้องปิดประตูอยู่เพียงลำพัง วายูนถึงกับกรีดร้องเสียงดัง และร้องไห้อย่างไม่เหลืออะไรในชีวิตอีกแล้ว จนนิโคไล ไฮดี้ และคาร์ลตกใจ และเป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่บ้านศิราณี (รุ้งลาวัณย์ โทนะหงษา) พี่สาวของศิวา ซึ่งเป็นแม่บ้านให้รามิล บอกกับศิวาว่า..เธอไม่เชื่อว่าวายูนจะเป็นเหมือนเช่นปัทมา หรือเพียงเพ็ญ ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนใครเลย

          รามิลภายหลังจากที่เกิดเหตุในวันนั้น ได้กลับมาหาวายูนที่ห้องพักอีกครั้ง แต่วายูนเจ็บเกินกว่าที่จะฟังคำอธิบายใด ๆ จึงบอกรามิลไปว่า เธอทำแท้งลูกของเขาไปแล้วหลังจากที่รามิลกลับไป วายูนตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไปทำแท้งเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เธอไม่ต้องการเก็บลูกที่พ่อของเด็กไม่ต้องการเอาไว้อีกต่อไป แต่คืนก่อนหน้าที่เธอจะไปทำแท้งนั้น เธอฝันเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นวิ่งเข้ามาจับมือเธอไว้ และเรียกเธอว่าแม่ เธอตกใจตื่นนึกถึงความฝันนั้น เลยตัดใจทำลายเด็กในท้องไม่ได้ วายูนตัดสินใจจะเก็บลูกเอาไว้ นิโคไล และไฮดี้บอกให้วายูนคิดให้ดี ๆ เพื่ออนาคตของตัวเอง แต่วายูนก็ตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าเธอจะยากลำบากเพียงใด เธอก็จะเก็บเด็กเอาไว้ และลูกในท้องของเธอนี้ จะเป็นลูกของเธอแต่เพียงผู้เดียว

          ทางด้านคุณหญิงจุลมณี ภายหลังจากที่ท่านแม่ทรงเป็นอัมพฤกษ์ ปรัชญาได้เข้ามาช่วยดูแลจนท่านหญิงจงกลนีเห็นความดี จึงยอมยกลูกสาวให้ แผนการของคุณนิตยาสำเร็จลงได้ เธอใช้เส้นสายจนรามิลถูกย้ายไปทำงานที่ประเทศเยอรมันนี คุณนิตยาเชื่อว่าจะทำให้เรื่องยุ่ง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างรามิลกับวายูนจบสิ้นลงได้ เธอเชื่อว่าวายูนจะต้องไปทำแท้งในที่สุด    แต่รามิล และคุณนิตยาคิดผิด วายูนเข้มแข็ง และเด็ดเดี่ยวกว่าที่ใครคิด เธอยอมลำบากทุกอย่างเพื่อเก็บเด็กไว้ โดยไม่ขอความช่วยเหลือใด ๆ จากผู้เป็นพ่อของเด็กเลยแม้แต่น้อย โดยมีไฮดี้ และนิโคไลคอยช่วยเหลือ และดูแลอยู่ไม่ห่าง นิโคไลบอกว่า แม้เธอจะเห็นเขาเป็นเพื่อน แต่เพื่อนคนนี้จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอไม่ว่าเธอจะสุขหรือทุกข์ ทำให้วายูนซาบซึ้งในน้ำใจของนิโคไลมาก แต่เธอก็ยังไม่อาจทำใจให้รักนิโคไลได้ 

           จนเมื่อวายูนท้องแก่ เธอตัดสินใจดร็อปเรียนลงชั่วคราว ไม่ปริปากบอกญาติผู้ใหญ่ทางเมืองไทยแม้เพียงสักเล็กน้อยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเธออยู่ คุณอาพร้อมจิตเข้าใจว่าวายูนเรียนหนัก จึงไม่บอกวายูนเรื่องปู่ผินตาย เพราะกลัวว่าวายูนจะเสียการเรียน ครั้นถึงวันคลอด คนที่อยู่เคียงข้างวายูนก็คือนิโคไล ยิ่งเขาเห็นวายูนเจ็บปวดจากการคลอดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรัก สงสาร และเห็นใจเธอมากขึ้นเท่านั้น วายูนไม่ยอมให้หมอบล็อกหลังหรือฉีดยาชาใด ๆ ให้เธอ เธอต้องการคลอดอย่างธรรมชาติที่สุด และให้ความเจ็บนี้เป็นบทเรียนแก่ตัวเธอเองด้วยที่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้กับผู้ชายที่ชื่อ รามิล !

          ขณะเดียวกัน รามิลก็ไม่เคยลืมวายูนเลย แต่หน้าที่การงานอันยุ่งเหยิง ประกอบกับคำกรอกหูจากคุณนิตยาเรื่องวายูนไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี แต่คิดจะจับเขา ไม่ต่างอะไรจากหญิงอื่นที่รามิลเคยพบพานมา และเคยสนุกด้วย รามิลจึงกลับไปใช้ชีวิตหนุ่มอย่างเต็มที่ โดยมีดามพ์เป็นคู่หู ทำให้ปรัชญาไม่พอใจนัก ปรัชญาจึงมีปากเสียงกับรามิล และบอกให้รามิลน่าจะลองติดต่อวายูนดูบ้าง บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่รามิลคิด แต่ดามพ์กลับพารามิลออกไปเที่ยว และบอกให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อวายูนเสีย รามิลพยายามสลัดความคิดถึงวายูน และใช้ชีวิตร่อนเร่ เร่หารักตามสไตล์ชายหนุ่ม เพื่อให้ลืมเรื่องราวที่ผ่านมา
   
          หลังคลอด วายูนยิ่งมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบากมากขึ้น เพราะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเด็กอ่อนมากขึ้น แต่วายูนก็ไม่ยอมปริปากบอกญาติผู้ใหญ่ทางเมืองไทยอยู่ดี คุณอาพร้อมจิตตัดสินใจบอกเรื่องปู่ผินตายเพราะใกล้จะเผาแล้ว ทำให้วายูนตกใจมาก ทีแรกเธอคิดจะบินกลับไปเมืองไทยเพื่อร่วมพิธีศพ แต่ติดที่เพิ่งคลอด และคุณอาพร้อมจิตก็ไม่ต้องการให้เธอกลับเมืองไทย เพราะอยากให้วายูนเรียนจบตามที่ได้ให้สัญญาไว้กับคุณปู่ วายูนจึงยิ่งมุมานะที่จะต้องเรียนให้จบ และรับปริญญาให้ได้ แม้จะจบล่าช้ากว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนไปถึง 6 เดือนก็ตาม และตลอดระยะเวลานั้น เธอก็ต้องทนสู้ต่อความยากลำบาก ทั้งการเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวแบบซิงเกิลมอม และการเรียนอันหนักหน่วงควบคู่กันไป ทำให้วายูนผ่ายผอมลงมาก แต่นิโคไลก็ไม่เคยทอดทิ้งวายูนเลย กระทั่งอาสารับเป็นพ่อเด็กให้แก่ลูกของเธอ แม้วายูนจะปฏิเสธความหวังดีนี้ ตัวเธอก็บอกตัวเองว่า..สักวันเธอจะพยายามรักเขาอย่างที่เขารักเธอให้ได้

          ในที่สุดวายูนก็เรียนจนจบ ลีล่า (ด.ญ.จิรดา โมแรน) ลูกของเธออายุเกือบขวบหนึ่งแล้ว นิโคไลซึ่งเรียนจบก่อน และได้เข้าทำงานที่ยูเอ็นประเทศออสเตรีย วิ่งเต้นให้วายูนได้งานที่เดียวกันกับเขา วายูนตัดสินใจโทรไปบอกข่าวดีนี้แก่คุณอาพร้อมจิต จึงได้รู้ว่าอาภักดิ์กำลังป่วยหนัก วายูนจึงตัดสินใจจะเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อไปเยี่ยมอาภักดิ์  นิโคไลกับไฮดี้อาสาจะดูแลลีล่าให้ จนกว่าเธอจะกลับมา แต่วายูนไม่ยอมเธอจะพาลูกน้อยไปด้วย เธอพร้อมแล้วที่จะบอกความจริงอันน่าอับอายนี้แก่คุณอาพร้อมจิต ว่าเธอก้าวพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต เธอมีลูกโดยไม่ได้แต่งงาน หนำซ้ำ ผู้เป็นพ่อเด็กยังไม่รู้อยู่ที่ไหนในโลกนี้อีกด้วย

    
          วายูนพาลีล่ากลับมาถึงกรุงเทพฯ คุณอาพร้อมจิตตกใจมากเมื่อรู้ว่าวายูนมีลูก แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว และยังให้กำลังใจวายูนอีกด้วยว่า ไม่มีใครหรอกที่ชีวิตจะไม่เคยทำเรื่องผิดพลาด แต่เมื่อคนเราก้าวพลาดไปแล้ว หากแต่ยังมีสติที่จะกลับมายืนให้มั่นคงอย่างเดิมได้ เช่นวายูนกลับมามุ่งมั่นเรียนจนจบ และได้เกียรตินิยมอีกด้วย ทำให้เป็นที่ต้องการตัวให้ไปร่วมงานมากมาย ชีวิตที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าย่อมต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน วายูนจึงน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าคุณอาพร้อมจิตให้อภัยเธอทุกอย่าง

           รามิลต้องกลับมาเรื่องงานที่เมืองไทย และน้านิตยาให้รามิลดูแล ม.ร.ว.จุลมณี ในฐานะคู่หมาย รามิลคิดมากเพราะไม่ได้รักคุณหญิงจุลมณีเลย ดามพ์ชวนรามิลไปเที่ยวนั่งดื่มด้วยกัน รามิลดื่มหนัก ก่อนกลับบ้านมองเห็นผู้หญิงคนนึงคิดว่าเป็นวายูน จึงวิ่งข้ามถนนอย่างกะทันหันโดนรถชนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล วายูนอุ้มลีล่าไปเยี่ยมอาภักดิ์ พร้อมกับคุณอาพร้อมจิตที่โรงพยาบาลเดียวกันกับที่รามิลเข้ามารักษาตัวหลังจากถูกรถชน รามิลมองเห็นวายูนอุ้มเด็กเลยวิ่งตามไปแต่ประตูลิฟท์ปิด จึงคิดว่าตัวเองตาฝาด วายูนเข้าไปเยี่ยมอาภักดิ์ในห้องไอซียู มองเห็นอาภักดิ์นอนอยู่บนเตียงมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด วายูนน้ำตาไหลสงสารอาภักดิ์ แล้วบอกกับอาภักดิ์ว่า วากลับมาหาอาภักดิ์แล้วค่ะ พอดีกับเสียงเครื่องช่วยหายใจดังขึ้น แพทย์และ พยาบาลกรูเข้ามาที่ห้อง แล้วให้เธอออกไปคอยด้านนอก สถานการณ์อันวิกฤตนั้นทั้งวายูน และคุณอาพร้อมใจไม่ดี สักพักแพทย์ที่เข้าไปดูอาการอาภักดิ์ออกมาบอกว่า ขอแสดงความเสียใจที่ไม่สามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้ คุณอาพร้อมถึงกับล้มทั้งยืน

          หลังจากเสร็จพิธีเผาศพอาภักดิ์ คุณอาพร้อมจิตตัดสินใจจะปล่อยบ้านให้เช่า แล้วบินกลับไปเมืองนอกพร้อมกับวายูน และลูก เพื่อช่วยเลี้ยงลีล่าให้วายูนได้ออกไปทำงานอย่างเต็มที่ และสบายใจ วายูนจึงได้ตระหนักว่า กำลังใจจากคนในครอบครัวนั้นสำคัญเพียงใด แม้คุณอาพร้อมจิตจะไม่ใช่แม่ แต่ก็มีบุญคุณไม่ต่างอะไรจากแม่เช่นกัน วายูนพาลีล่า และคุณอาพร้อมจิตมาที่ประเทศออสเตรีย เธอพร้อมจะเริ่มต้นชีวิตผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวแล้ว คุณอาพร้อมจิตเห็นนิโคไลดีกับวายูนอย่างจริงใจ และรู้ว่านิโคไลรักวายูนมาก จึงยุให้แต่งงานกันเสีย แต่วายูนก็ยังไม่ใจอ่อน เธอยังเข็ดกับเรื่องความรัก และในใจเธอยังลืมรามิลไม่ได้

          วันหนึ่งเพียงเพ็ญเกิดมาเห็นวายูน และลีล่าเข้า ปะติดปะต่อเรื่องราวบางอย่างได้ เพียงเพ็ญเชื่อว่าเด็กที่เธอเห็น คือลูกของวายูนกับรามิลที่วายูนไม่เคยเอาออก เพียงเพ็ญเอาความนี้ไปบอกคุณนิตยา คุณนิตยาไม่เชื่อ กลับมั่นใจว่าเด็กนั่นน่าจะเป็นลูกของวายูนกับนิโคไลมากกว่า เพราะรู้ว่านิโคไลไม่เคยอยู่ห่างวายูนเลย และนิโคไลก็ยังรักมั่นอยู่กับวายูนเพียงคนเดียว แต่เพียงเพ็ญยืนยันว่าควรหาทางพิสูจน์ให้รู้แน่ว่าเด็กนั่นคือลูกของใคร แต่คุณนิตยาบอกให้เพียงเพ็ญเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ทำให้เพียงเพ็ญเห็นถึงความใจร้ายของคุณนิตยา เพียงเพ็ญจึงไปสืบรู้ความจริงด้วยตัวเองว่า วายูนไม่ได้ทำแท้งเธอเก็บลูกไว้ กว่าวายูนจะผ่านมาจนถึงวันนี้ได้นั้น ยากลำบากแสนเข็ญ ตั้งแต่ต้องดร็อปเรียน และหลบไปอยู่ที่เมืองวาเค้าช่วงท้องแก่ พ่อของไฮดี้รับวายูนเป็นลูกเพื่อความสะดวกตอนคลอด และระหว่างรอคลอด วายูนซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่ของไฮดี้ที่เมืองวาเค้าก็ไม่เคยอยู่นิ่ง รับจ้างทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเก็บเงินไว้ใช้เลี้ยงลูกจนเธอคลอด ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังทั้งเหนื่อย และลำบากเลือดตาแทบกระเด็น จนตัวเองผ่ายผอม

          เพียงเพ็ญเกิดความสงสารวายูนขึ้นมาจับใจ เห็นความเข้มแข็งของวายูน และรู้สึกผิดที่เคยคิดไม่ดีกับวายูน จึงรู้ว่าวายูนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออีกต่อไป เธอไปบอกทุกเรื่องที่เธอรู้กับดามพ์ ดามพ์ดีใจที่คนที่เขารัก ลึก ๆ แล้วก็เป็นคนมีคุณธรรมอยู่ไม่น้อย และเริ่มเข้าใจตัวตนของตัวเอง จึงชวนกันไปบอกความจริงเรื่องของวายูน และลูกให้รามิลรู้ รามิลพอทราบเรื่องทั้งหมด เขารู้สึกว่าตัวเองผิดต่อวายูนอย่างมาก จะไปรับวายูน และลูกกลับมา ดามพ์ และเพียงเพ็ญเห็นว่าคงเป็นเรื่องยาก เพราะวายูนบอบช้ำกับเรื่องนี้มามาก และเธอคงจะไม่ยอมรับรามิลง่าย ๆ

          รามิลจึงแอบตามดูวายูนโดยไม่ให้วายูนรู้ตัวอยู่หลายวัน จนเห็นวายูนอยู่กับเด็กหญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง พร้อมกับนิโคไล และหญิงสูงวัย ที่เขาได้ยินวายูนเรียกว่า คุณอาพร้อมจิต เขาจึงนึกได้ว่าวายูนเคยเล่าให้เขาฟังเรื่องของอาเป็นผู้ส่งเสีย และเลี้ยงดูเธอ รามิลหาโอกาสเจอคุณอาพร้อมจิต และลีล่าโดยที่วายูนไม่อยู่ คุณอาพร้อมจิตซึ่งไม่รู้ว่าเขาคือใคร เข้าใจว่าคือคนไทยที่มาทำงานที่เมืองนอกเท่านั้น คุณอาพร้อมจิตจึงเล่าให้เขาฟังว่า ลีล่านั้น ชื่อจริงคือ รวินท์ ที่แปลว่าดอกบัว ซึ่งคุณอาพร้อมจิตเป็นคนตั้งให้เอง โดยเอาชื่อพ่อกับแม่มารวมกัน รามิลถามว่าพ่อของเด็กชื่ออะไร คุณอาพร้อมจิตจึงบอกว่า พ่อของลีล่าชื่อรามิล แต่ตายไปแล้ว ทำให้รามิลช็อคไปเมื่อรู้ว่าลีล่าคือลูกของเขาจริง ๆ รามิลไปต่อว่าคุณนิตยาที่ปิดบังเรื่องนี้กับเขา คุณนิตยาปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องจริง ๆ คนที่ให้ไปสืบกลับมาบอกว่าวายูนทำแท้งไปแล้ว แต่รามิลไม่เชื่อคุณนิตยาอีกต่อไป  เขาทะเลาะกับคุณนิตยา และตัดสินใจว่าจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คุณนิตยาไม่ยอม ทั้งคู่จึงทะเลาะกันรุนแรง และคุณนิตยาขู่ว่าถ้ารามิลจะคว้าผู้หญิงไม่มีสกุลคนนั้นมาเป็นสะใภ้ เธอจะตัดเขาออกจากกองมรดก แต่รามิลไม่สนใจเรื่องทรัพย์สินนอกกายอีกแล้ว เขาตัดสินใจไปหาวายูน 

          วายูนตะลึงจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นรามิลมายืนตรงหน้า และบอกว่าเขารู้แล้วว่าเธอไม่ได้ไปทำแท้งดังที่เคยบอกเขา แต่วายูนยืนยันว่าลีล่าคือลูกของเธอเพียงคนเดียว  รามิลไม่มีสิทธิ์ข้องเกี่ยวแต่อย่างใด และวายูนยืนยันว่าเธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวพันกันอีกแล้ว และเดินจากไป แต่รามิลไม่ยอม เขาขอโอกาสได้แก้ไขในสิ่งที่ผิด เขายอมรับว่าตลอดเวลาเขารักวายูนไม่เคยเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เขาไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย ซึ่งตลอดเวลาที่เขารู้จักกับวายูนเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนที่เขาเจอ และเขาต้องการให้เธอกลับมา แต่วายูนใจแข็งกว่าที่รามิล และทุกคนคิด เพราะนอกจากเธอจะไม่ใจอ่อนกับรามิลแล้ว เธอยังตัดสินใจที่จะแต่งงานกับนิโคไล เพื่อที่จะให้รามิลไปจากชีวิตเธอเสียที

          นิโคไลดีใจมากที่วายูนยอมตกลงแต่งงานกับเขา แต่เขาก็รู้สึกว่าวายูนไม่ได้รักเขา จะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะได้ตัววายูนมาครอบครอง เพราะหัวใจของวายูนยังทั้งรักและฝังใจอยู่กับรามิลเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่วายูนยังคงดึงดันที่จะแต่งงานกับนิโคไล จนคุณอาพร้อมจิตเข้ามาพูดให้สติแก่วายูนให้นึกถึงลูกว่า ลูกต้องมีพ่อ แล้วพ่อจริง ๆ ก็พร้อมกลับมารับครอบครัวของเขาด้วยความรัก ถึงแม้เขาจะเคยพลาดทำให้เราต้องเสียใจ แต่คนที่ผิดแล้วยังรู้ว่าตัวเองผิด และพร้อมรับผิดกับสิ่งที่ได้ทำมาย่อมควรได้รับการให้อภัย เพื่อครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ และลูก นั่นจึงทำให้เกิดเป็นความสุขได้
   
          ส่วนนิโคไลการที่ได้เห็นคนที่เขารักมีความสุขกับคนที่เธอรัก มันเป็นสุขมากกว่าการที่เขาจะได้แต่งงานกับเธออย่างคนเห็นแก่ตัว นิโคไลจึงได้นำแหวนเพชรมาทำเป็นสร้อยคอให้ลีล่า แล้วบอกว่า สิ่งนี้เป็นของขวัญจากลุงนิโคไล แล้วนิโคไลก็จากไป รามิลบอกวายูนว่า เขานับถือหัวใจของผู้ชายรัสเซียคนนี้ และเขาจะไม่ทำให้การเสียสละของนิโคไลต้องเสียเปล่า แล้วรามิลก็คุกเข่าลงขอวายูนแต่งงาน ณ ที่นั้นเอง
ติดตามชม ละครรักเร่ ได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครรักเร่ เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558
 
รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร รักเร่

 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวสี พระวรราชาทินัดดามาตุ  ทรงให้เกรียติร่วมเเสดงในบท  อาพร้อมจิต
ม.ล.สราลี กิติยากร  รับบท  เพียงเพ็ญ
อรรคพันธ์ นะมาตร์  รับบท  รามิล
เขมนิจ จามิกรณ์  รับบท  วายูน
อัษฎา พานิชกุล  รับบท  นิใคไล
จารุณี สุขสวัสดิ์  รับบท  นิตยา
มาริสา แอนนิต้า  รับบท  ไฮดี้
นาตาลี เดวิส  รับบท  ปัทมา
ภาณุ สุวรรณโณ  รับบท  ดามพ์
นพพล พิทักษ์โล่พานิช  รับบท  ปรัชญา
ด.ญ.จิรดา โมแรน  รับบท  ลีล่า
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์  รับบท  กัญญารัตน์
ท่านอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์  รับบท  ท่านทูต
สุพรรณษา เนื่องภิรมย์  รับบท  คุณหญิงนิต้า
สรพงษ์ ชาตรี  รับบท  ปู่ผิน
ทูน หิรัญทรัพย์  รับบท  อาภักดิ์
พิมพิศา จิราธิวัฒน์  รับบท  ม.ร.ว.จุลมณี
รุ้งลาวัณย์ โทนะหงษา  รับบท  ศิราณี

รักเร่ รักเร่

รักเร่

รักเร่ รักเร่

รักเร่ รักเร่

รักเร่ รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

 
บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่
 
บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่ บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่

บวงสรวงละคร รักเร่


ข้อมูลจาก 



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องย่อละคร รักเร่ อัปเดตล่าสุด 28 ธันวาคม 2558 เวลา 14:26:30 357,056 อ่าน
TOP
x close