เผยเรื่องราวของ ภาษีผักบุ้ง ที่มีการเก็บกันในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เพียง 3 เดือนเก็บได้มากกว่า 400 ชั่ง จนกระทั่งความทราบถึงพระเจ้าเอกทัศ สะท้อนการปล่อยให้ขุนนางข่มเหงประชาชน และความอ่อนแอของบ้านเมือง
หากใครที่ได้ดูละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561 คงจะได้ยินกันถึงเรื่องราวของการเก็บภาษีผักบุ้ง ซึ่งภาษีนี้นั้นเคยมีอยู่จริง และเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐ ที่ปล่อยให้ขุนนางโกงกิน จนทำให้กรุงศรีอยุธยาอ่อนแอลง และเป็นส่วนหนึ่งของการเสียกรุง
จากนั้น นายสังข์ก็นำผักบุ้งไปขายในตลาดด้วยราคาแพง จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน และเมื่อนำไปร้องทุกข์ต่อข้าราชการ ก็ไม่มีใครนำความขึ้นกราบทูล
ครั้นต่อมา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ ทรงพระประชวร จึงมีรับสั่งให้นำละครเข้าไปเล่น โดยนายแทนและนายมีที่เป็นจำอวด เป็นตัวละครชาย 1 คน หญิง 1 คน ซึ่งจำอวดที่เป็นผู้หญิงพูดว่า "จะเอาเงินมาแต่ไหนจนจะตาย แต่เก็บผักบุ้งขายยังมีภาษี" จนพระเจ้าเอกทัศแปลกพระทัย จึงสั่งให้ไต่ถาม จนได้ทราบความจริงว่ามีการเก็บภาษีผักบุ้ง
ข้อมูลและภาพจาก
ทวิตเตอร์ @Pom_paramee, เฟซบุ๊ก Apisit Teerajaruwun, ThaiPBS, Instagram ch3thailand