

เช้าตรู่ในปี 1680 มีขุนนางใหญ่ถูกสังหาร เด็กน้อยทงอีที่ถูกจัดว่าเป็นสังคมชนชั้นล่างได้บังเอิญไปพบกับการตายของ ขุนนางใหญ่เข้า หลังจากมีการชันสูตรศพ ทางกองมือปราบเข้าใจว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคอมเก องค์กรของชนชั้นล่างที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ความเป็นจริงแล้วคดีนี้กลับเป็นฝีมือของหัวหน้ากลุ่มขุนนางฝ่ายใต้แทซุก ที่ต้องการจะป้ายสีไปให้..

เชยอวอนเรียกประชุมด่วนกลุ่มคอมเก เพื่อจะตามหาฆาตกร และได้ส่งลูกสาวทงอีไปหลบซ่อนตัวไว้ แต่ทงอีกลับแอบหนีไปกล่าวคำอวยพรที่บ้านของตัวบงการแทซุก ทำให้แทซุกส่งคนมาจับทงอี พร้อมส่งคนวางแผนฆ่ารองประธานสภาแล้วยัดข้อหาให้กลุ่มคอมเก จนกระทั่งจับตัวเชยอวอนกับเชทงจูได้

ทงจูได้ฝากฝังทงอีไว้ให้ชอนซูช่วยดูแล ขณะที่กลุ่มคอมเกวางแผนจะปล้นนักโทษ หลังจากเกิดการปะทะ สมาชิกคอมเกถูกสังหารไปเป็นจำนวนมาก ในศึกครั้งนี้ทงจูถูกธนูยิง เชยอวอนก็ถูกแทง ด้านแทซุกได้เชิญคิมฮวันมาตรวจดวงชะตาของอ๊กจอง และได้ทำนายว่านางจะมีวาสนาอันยิ่งใหญ่

นางโลมซอลฮีได้ทำตามคำขอร้องของทงอี ที่จะเข้าไปอยู่ในวัง เพื่อหลบหนีจากการตามล่าของมือปราบและตามหาความจริงในคดีซอลฮีจึงขอให้ผู้คุมกองดนตรีจูซิก ช่วยรับทงอีเข้าไปในกองดนตรีในวัง

จางอิ๊กจองกำลังพบเจอกับกับดักที่พระพันปีวางไว้ ทำให้แทซุกผู้ที่คอยปกป้องนางรู้สึกถึงอันตรายที่มาคุกคาม ขณะที่ทงอีต้องการที่จะล้างมลทินให้กับพ่อจึงพยายามตามหาคนที่มีป้ายพกรูปผีเสื้อ แต่กลับถูกคนจับกุมตัวไปแทน

ทงอีที่ถูกจับไป ทำให้ไปพบศพคนทำเครื่องดนตรีที่เสียชีวิต ขณะที่หนีออกมาแจ้งมือปราบ ศพกลับถูกย้ายไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กำลังพยายามตามสืบเรื่องนี้โดยลำพัง ก็บังเอิญได้ไปพบกับพระเจ้าซุกจงที่ปลอมตัวออกมาประพาส

เมื่อทงอีกับพระเจ้าซุกจงรอดพ้นอันตรายมาได้ ทำให้พระพันปีเกิดความวิตกกังวล เมื่อคดีดนตรีวิบัติคลี่คลาย พระเจ้าซุกจงจึงได้พระราชทานอาหารและของกำนัลให้ทงอี ขณะที่จางซังกุงที่ทงอีต้องการพบนั้น จู่ ๆ ก็เรียกทงอีเข้าไปพบโดยไม่คาดฝัน

ทงอีขอดูป้ายพกติดตัวของจางซังกุง ในขณะที่ในวังมีการประกาศลดขั้นขุนนางฝ่ายตะวันตก แล้วก็เลื่อนขั้นให้กับขุนนางฝ่ายใต้ แต่ไม่นานก็พบว่ามีคนวางยาพิษในโอสถของพระมเหสี ทำให้กลุ่มฝ่ายใต้ติดกับดักอีกครั้ง

หมอที่แม่ของจางซังกุงไปซื้อยาถูกคนฆ่าตาย ทงอีถูกจับไปสอบสวนที่กองปราบ ในขณะนั้นทำให้ได้พบกับซอโยงกี ขณะที่กลุ่มของพระพันปีเมื่อทราบว่าจางซังกุงทำผิดกฎแอบเอายาจากภายนอกเข้าวัง จึงตัดสินใจส่งหนังสือไปที่กองปราบเพื่อให้เอาผิดกับจางซังกุง

จางซังกุงมาช่วยทงอีไว้ก่อนที่จะถูกลงทัณฑ์ทรมาน ขณะที่พระเจ้าซุกจงก็มีรับสั่งให้ซอโยงกีแอบสืบคดีนี้ไปด้วย ขณะที่จางซังกุงถูกให้ร้ายจนดูเหมือนจะไม่รอด โฮแทซุกจึงตัดสินใจที่จะให้ทงอีมาเป็นแพะรับบาปในคดีนี้แทน

เนื่องจากทงอีมีชาติกำเนิดเป็นชนชั้นต่ำ ทำให้ถูกนางในฝ่ายตรวจการกีดกัน และได้วางแผนเพื่อที่จะขับไล่ทงอีกออกไป ส่วนจางฮีเจ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองปราบขวา

ทงอีถูกดึงเข้าสู่การทดสอบของฝ่ายตรวจการ ซึ่งหากสอบไม่ผ่านจะต้องถูกคัดออก ด้วยความช่วยเหลือจากพระมเหสี ทงอีที่สอบตกจึงได้โอกาสให้เตรียมตัวสามวัน ขณะที่จูซิกกับยูนดัลสงสัยในตัวชอนซู จึงแอบไปค้นห่อสัมภาระแล้วเจอผ้าโพกหัวที่มีสัญลักษณ์สำคัญอยู่ และเอาไปปรึกษากับทงอี

ในที่สุดชอนซูก็ได้มาพบกับทงอี ขณะเดียวกันก็มีทูตจากต้าชิงมาเยือน คนของทางกองปราบทราบมาว่า หนึ่งในขันทีที่ติดตามมามียูนดัลที่เป็นพ่อค้าตลาดมืด ซึ่งทงอีได้ไปเจอเงื่อนงำสำคัญ แต่สุดท้ายทูตต้าชิงรู้เรื่องการแอบสืบเข้า การสืบของฝ่ายตรวจการจึงต้องจบลง แต่ทงอียังไม่หมดความพยายามที่จะกลับเข้าไปสืบต่ออีกครั้ง

ทงอีรู้ฐานะที่แท้จริงของพระราชา ก็รู้สึกหวาดกลัวว่าจะถูกลงโทษ ขณะเดียวกันซอโยงกีก็สามารถนำรหัสลับที่ทงอีหามา ไปจับกุมของกลางได้ แต่กลับกลายเป็นว่าขุนนางของต้าชิงกลับฆ่าตัวตาย ทำให้ทูตต้าชิงร้องของให้โชซอนมอบตัวทงอีไปให้ สุดท้ายทงอีจึงตัดสินใจไปมอบตัวที่เรือนรับรองของคณะทูตด้วยตัวเอง

ทงอีไปพบกับคณะทูตต้าชิง เพื่อขอเวลาพิสูจน์ความจริงว่าทั้งหมดเป็นแผนของคิมยูนดัล ภายหลังชอนซูได้ช่วยให้ คิมยูนดัลถูกกองปราบจับตัว ทำให้ทงอีรอดจากคดีนี้ไปได้

พระเจ้าซุกจงแต่งตั้งจางซังกุงเป็นพระมเหสีขั้นที่สี่ และเลื่อนเป็นพระสนมเอกหลังจากที่ได้คลอดพระโอรสออกมา ในขณะที่พระพันปีกำลังคัดค้านเรื่องการตั้งรัชทายาท จู่ ๆ อาการประชวรก็ทรุดหนัก พระมเหสีอินฮอนสงสัยในเรื่องนี้ จึงให้ฝ่ายตรวจการคอยสืบว่าพระโอสถมีปัญหาหรือไม่

ทงอีตามสืบรู้ว่าหมอหลวงฮอเป็นคนใส่ยาที่มีฤทธิ์ข่มจนเป็นพิษในพระโอสถของพระพันปี และรู้ว่าเบื้องหลังนี้เกี่ยวข้องกับตำหนักชีซอน พระสนมฮีบิน (อ๊กจอง) เรียกทงอีไปคุยเพื่อให้หยุดสืบสาวเรื่องนี้ต่อ แต่ทงอีกลับปฏิเสธไป

หมอหลวงฮอที่ถูกจับมากลับใส่ร้ายพระมเหสีอินฮอนว่าเป็นผู้วางแผนปลงพระชนม์พระพันปี พระมเหสีได้ขอให้พระสนม ฮีบินหยุดแผนการทั้งหมด แต่ก็ถูกปฏิเสธ ทงอีจึงวางแผนพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับพระมเหสี แต่หลักฐานที่ได้ทั้งหมดกลับเป็นผลร้ายต่อพระมเหสีมากกว่า

จางฮีเจกลัวว่าแผนการปลงพระชนม์พระพันปีจะถูกเปิดโปงจึงคิดจะกำจัดทงอีทิ้ง ขณะที่กลุ่มขุนนางฝ่ายใต้ได้พยายามกดดันให้มีการปลดพระมเหสีอินฮอนทิ้ง แม้ว่าพระเจ้าซุกจงจะเชื่อใจพระมเหสี แต่ก็วางพระองค์ลำบาก ทงอีกับซอโยงกีพยายามหาทางช่วยเหลือพระมเหสี ทำให้ทงอีตัดสินใจไปหาจางฮีเจตามลำพัง

พระมเหสีถูกปลดเป็นสามัญชนจึงได้ฝากฝังทงอีให้ช่วยดูแลพระราชาด้วย จางฮีเจเมื่อได้อาศัยบารมีของอ๊กจอง ก็เริ่มไม่เห็นใครอยู่ในสายตา มีแต่ทงอีที่กล้าประกาศสงครามกับเขา อ๊กจองเองก็เริ่มกลัวในตัวทงอี จึงเรียกยูซังกุงให้วางแผนจัดการทงอี

ทงอียืนยันจะตรวจสอบกองพระคลัง โดยมีจองซังกุงกับฝ่ายตรวจการสนับสนุน จางฮีเจที่เคยยักยอกเงินจากกองพระคลังมาใช้ในคดีให้ร้ายพระมเหสีอินฮอนเห็นทงอีจะเข้าไปตรวจจึงเกิดร้อนใจ แต่พระราชาซุกจงกลับมีรับสั่งไม่ให้ฝ่ายตรวจการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ

พระสนมอ๊กจองได้ตัดสินใจให้จางฮีเจกำจัดทงอีทิ้งเสียจะได้ไม่เป็นภัยในภายหลัง จางฮีเจส่งมือสังหารเข้าวังเพื่อตามฆ่าทงอี ทงอีจึงต้องกำหลักฐานหลบหนีเอาชีวิตรอด แต่ก็ยังถูกอาวุธลับของศัตรูทำให้บาดเจ็บ

ทางด้านพระเจ้าซุกจงที่ออกไปล่าสัตว์ คิดจะเอาหนังกวางที่ล่าได้มาทำรองเท้าให้ทงอี แต่แล้วเมื่อได้รับรายงานว่าห้องเอกสารกองพระคลังถูกวางเพลิง พระเจ้าซุกจงก็ต้องรู้สึกตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น

จางฮีเจมาปรากฎตัวที่อึยจู ทำให้ชึนวูนเทคได้ปลอมตัวไปเป็นล่ามเพื่อไปสืบหาสาเหตุการมาของจางฮีเจ และเมื่อรู้ว่าจางฮีเจจะนำบันทึกทางการทหารไปมอบให้ต้าชิง ทำให้วูนเทคและทงอีพยายามหาทางขัดขวาง

ในที่สุดทงอีก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่จางฮีเจมายังอึยจู แต่ไม่นานจางฮีเจก็จับทงอีได้ และเมื่อรู้ถึงฐานะของวูนเทคที่ปลอมเป็นล่ามมา ก็มีคำสั่งให้ตามจับชิมวูนเทค ขณะที่อ๊กจองเริ่มรู้สึกกังวลในพระทัยของพระราชา จึงได้ร่วมกับกลุ่มฝ่ายใต้เพื่อวางแผนบางอย่าง

ในเมืองหลวงมีการแจกจ่ายรูปวาดของทงอี ทำให้ทงอีกับซอลฮีเข้าเมืองยากยิ่งขึ้น พระเจ้าซุกจงที่เป็นห่วงความปลอดภัยของทงอี จึงให้ตราอาญาสิทธิ์กับผู้บัญชาการซอ เพื่อให้ทำงานสะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่มีการจัดงานพิธีเลี้ยงตัวไหม อ๊กจองกลับวางแผนให้มีการวางยาพิษตัวเอง

ในที่สุดพระมเหสีที่เป็นลมในงานเลี้ยงก็ได้สติกลับมา ศาลไต่สวนจึงทำการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอดีตพระสนม ขณะที่ยูซังกุงก็ได้วางแผนให้ร้ายจนจองซังกุงกับจองอิมต้องถูกศาลไต่สวนจับกุมตัวไป และในที่สุด ชอนซูก็ได้พบกับซอลฮี

ในที่สุดทงอีกก็ได้พบกับพระเจ้าซุกจง พระเจ้าซุกจงเกรงว่าทงอีตรากตรำลำบากมานานอาจจะล้มป่วยจึงตามหมอหลวงมาดูอาการ แต่แล้วการที่รู้เรื่องทั้งหมดทำให้พระเจ้าซุกจงเย็นชากับพระมเหสี (อ๊กจอง) จนทำให้นางเริ่มสงสัย จากนั้นพระเจ้าซุกจงก็นำหลักฐานที่ได้มาจากทงอีมอบให้กับศาลตรวจการ (ศาลที่ตรวจข้าราชการ) และเริ่มต้นตรวจสอบอ๊กจองกับขุนนาง กลุ่มฝ่ายใต้

จางฮีเจถูกองครักษ์จับกุมตัวไปสอบสวนที่ศาลตรวจการ กลุ่มขุนนางฝ่ายใต้จึงเป็นห่วงว่าแผนใส่ร้ายอดีตพระมเหสีจะแดงขึ้นมา ในขณะที่พระเจ้าซุกจงได้เตือนให้อ๊กจองกลับใจเสีย แต่อ๊กจองกลับบอกว่าไม่เคยทำผิดต่อพระราชา

ในที่สุดทงอีก็ได้เป็นนางในถวายตัวขึ้นเป็นซังกุงชั้นพิเศษ ทำให้กลุ่มฝ่ายใต้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก อ๊กจองจึงได้ไปหาพระเจ้าซุกจงและตกลงแลกเปลี่ยนการยอมให้ทงอีเป็นซังกุงแลกกับการปล่อยตัวพี่ชายของตน ทงอีรู้สึกไม่คุ้นเคยกับการเป็นซังกุงและการมีเรือนที่พักของตน พระเจ้าซุกจงใช้แหวนหยกมาสารภาพรักกับทงอี แต่ทงอีกลับถอดชุดซังกุงแล้วหนีออกจากวังไป

แทซุกต้องการที่จะขับไล่ทงอีจึงสั่งให้มีการสืบที่มาของนาง ทางด้านอ๊กจองกับจางฮีเจที่ไม่รู้เรื่องบันทึกถึงลูกเป็นของปลอมก็กำลังกังวลกับการรับรองรัชทายาทของทางต้าชิง ซอโยงกีกับชอนซูตัดสินใจที่จะเดินทางไปอึยจูเพื่อหาหลักฐานความผิดครั้งนี้ ขณะที่ในเรือนของทงอีกลับเกิดโรคติดต่อ และระบาดไปถึงตำหนักของว่าที่รัชทายาท จึงมีการปล่อยข่าวว่าทงอีคิดร้ายต่อ]รัชทายาท

กลุ่มฝ่ายใต้เริ่มสงสัยที่หาข้อมูลประวัติของทงอีไม่ได้ ส่วนพระเจ้าซุกจงเองก็เป็นห่วงเรื่องที่พระมเหสีต่อต้านทงอี ขณะที่โรคประหลาดได้ติดต่อไปถึงเอจอง ทงอีพยายามที่จะหาต้นเหตุของโรค และพบว่าในครัวกลับเป็นสถานที่ที่ไม่มีนางในติดโรคนี้

ถึงแม้จางฮีเจจะมอบบันทึกฉบับปลอมให้กับต้าชิง แต่ทางต้าชิงกับยังให้การรับรองรัชทายาท พระเจ้าซุกจงเห็นชิมวูนเทคกลับมาที่เมืองหลวง จึงได้ขอให้คอยช่วยเหลือทงอี เพื่อที่จะสืบหาประวัติของทงอี อ๊กจองจึงตัดสินใจเตรียมตั้งทงอีเป็นพระสนม

ทงอีสารภาพกับซอโยงกีว่าตนเองคือลูกสาวของหัวหน้ากลุ่มคอมเก เมื่อซอโยงกีรู้เรื่องเข้าก็เกิดลังเลว่าควรจะนำเรื่องนี้กราบทูลต่อพระเจ้าซุกจงหรือไม่ ด้านกลุ่มฝ่ายใต้เองก็กำลังสืบหาประวัติของทงอี ขณะที่ทงอีเองก็เตรียมกราบทูลความจริงกับ พระเจ้าซุกจง

เมื่อทูตต้าชิงบีบให้จางฮีเจมอบบันทึกการจัดกองกำลังชายแดนให้ พระมเหสีจางอ๊กจองจึงได้วางแผนให้จัดงานเลี้ยง เพื่อรวมคนของพวกทงอีทั้งหมดให้ไปออกงาน แล้วแอบส่งคนไปค้นหาบันทึกถึงลูก แต่ก็ถูกพวกของทงอีซ้อนแผน

เมื่อพระเจ้าซุกจงทราบว่าพระมเหสีอ๊กจองเกี่ยวข้องกับแผนการที่สมคบกับต้าชิงทำให้เสียพระทัยมาก จึงมีรับสั่งให้จับตัวจางฮีเจ พระเจ้าซุกจงจึงคิดจะอาศัยโอกาสนี้ปฏิรูปราชสำนัก สุดท้ายเพื่อเอาตัวรอดโฮแทซุกกับกลุ่มฝ่ายใต้จึงตัดสินใจขายพระมเหสี

พระเจ้าซุกจงมีประกาศให้ปลดพระมเหสีอ๊กจอง แต่ให้คงตำแหน่งพระสนมฮีบิน ในขณะเดียวกันก็คืนตำแหน่งให้กับพระมเหสีอินฮอน เมื่อกลับมาดำรงตำแหน่ง พระมเหสีอินฮอนจึงได้เป็นกำลังสำคัญให้กับทงอี พร้อมกันนั้นทงอีก็ได้ตั้งครรภ์ในวันที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นพระสนมซุกวอน

ผ่านไปไม่นานทงอีก็ได้คลอดพระโอรสออกมา ทำให้พระเจ้าซุกจงมักไปที่ตำหนักโบคยองของทงอีอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งมีข่าวลือในวังว่าพระโอรสคนใหม่อาจจะมาแย่งตำแหน่งรัชทายาททำให้อ๊กจองและมารดารู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์หัวหน้ากองสวัสดิการณ์ถูกสังหาร และผู้ที่ก่อการกลับเป็นคนที่ทำผ้าโพกหัวสัญลักษณ์กลุ่มคอมเกหล่นเอาไว้

ทงอีขอเดินทางไปยังเรือนประทับนอกวังที่พระมเหสีอินฮอนได้จัดไว้ แล้วร่วมมือกับชิมวูนเทคไปสืบยังบ่อนที่พวก ต้าชิงชอบไปเล่น เพราะสืบหาความหมายสัญลักษณ์มือที่ผู้ตรวจการณ์จางในอดีตได้ทิ้งไว้ ในขณะเดียวกันกลุ่มชนชั้นสูงก็ยังถูกสังหารอย่างต่อเนื่อง หลายคนคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคอมเก

การที่ทงอีถูกกลุ่มคอมเกคุกคาม ทำให้ได้พบกับแคดอราเพื่อนในสมัยเด็ก ชอนซูพยายามกล่อมแคดอราไม่ให้ฆ่าคนชั้นสูง แต่แคดอราไม่ยอมรับฟัง อีกด้านหนึ่งจางมูยอลได้นำเรื่องนักโทษฝ่ายใต้ที่ถูกเนรเทศนำทรัพย์สินไปช่วยคนยากจน รายงานต่อพระเจ้าซุกจง ทำให้พระเจ้าซุกจงคิดว่าควรจะปล่อยตัวหรือไม่

ทงอีที่ค่อย ๆ สืบรู้ความจริงในคดีคอมเกปีซินยู จนรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือโฮแทซุกกับจางอ๊กจอง ในขณะที่จางฮีเจและกลุ่มฝ่ายใต้ได้กลับมายังเมืองหลวง ส่วนจางมูยอลก็จับเบาะแสได้ว่า ทงอีมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคอมเก

ทงอีกราบทูลต่อพระเจ้าซุกจงว่าที่แท้ตนคือเชทงอี ไม่ใช่ชอนทงอี และเป็นลูกสาวหัวหน้ากลุ่มคอมเกในอดีต ส่วนเหล่า ขุนนางก็มาร่วมกันทูลขอให้ประหารทงอี ในโทษฐานช่วยเหลือหัวหน้ากลุ่มคอมเกปัจจุบัน แต่พระเจ้าซุกจงไม่ยอมให้ทงอีได้รับอันตรายใด ๆ

เจ้าเมืองฮันยางต้องการลงโทษทงอี จึงได้ไปจับตัวคนใกล้ชิดทงอีมา ทำให้ทงอีตัดสินใจไปมอบตัวแล้วสารภาพเรื่องทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มคอมเก ในขณะเดียวกันพระโอรสของทงอีก็เกิดป่วยขึ้นมา และในที่สุดพระเจ้าซุกจงก็ประกาศคำตัดสินใจคดีครั้งนี้

ทงอีออกมาอยู่นอกวัง 7 ปี จนกระทั่งพระโอรสกึมอายุ 6 ปี ที่งานเลี้ยงในวัง รัชทายาททรงเป็นลม และหมอนัมที่รักษาบอกกับจางอ๊กจองว่ารัชทายาทไม่สามารถมีผู้สืบสกุลได้ ขณะที่พระมเหสีเริ่มแปลกใจที่อ๊กจองไม่ยอมให้หมอหลวงมาตรวจรัชทายาท ขณะที่กึมได้ติดตามเด็กที่จะได้เข้าวังในงานเลี้ยงพระราชทานให้เด็กชนชั้นต่ำ เพื่อตามหาพระเจ้าซุกจง

พระเจ้าซุกจงปลอมตัวมาเป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองเพื่อเล่นกับกึม ทำให้นึกถึงสมัยที่เคยปลอมตัวหลอกทงอี ขณะที่ท่าทีของอ๊กจองที่มีต่อรัชทายาท ทำให้พระมเหสีสงสัยว่ารัชทายาทจะต้องมีปัญหาอะไร จึงตัดสินจะประกาศคัดเลือกชายาให้รัชทายาท ด้านแม่ของอ๊กจองเมื่อรู้ว่าพระเจ้าซุกจงแอบไปหาทงอีจึงได้จ้างคนไปวางเพลิง แต่กลับกลายเป็นข้ออ้างให้พระเจ้าซุกจงรับทงอีกับลูกกลับเข้าวัง

ทงอีกับกึมกลับมายังวังหลวง กึมได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์ชายยอนอิง ส่วนทงอีได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพระสนมขั้นที่สองนามซุกอึย เมื่อกึมรู้ความจริงว่าผู้ช่วยเจ้าเมืองก็คือพระบิดา จึงตกใจจึงวิ่งหนีไปหลบซ่อน จนพระเจ้าซุกจงต้องวางแผนหลอกให้ออกมา

กึมยังพยายามที่จะทำให้คิมกูซอนมาเป็นอาจารย์ของตนให้ได้ สุดท้ายคิมกูซอนก็ยอมเป็นอาจารย์ให้ เพราะยอมรับ ในคำว่าศึกษาเพื่อช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก พระมเหสีเริ่มวางแผนตามหาหมอผู้ช่วยหมอที่รักษารัชทายาท เพื่อสืบเรื่องของ อ๊กจอง แต่สุขภาพกลับย่ำแย่ลงทุกที

ในที่สุดอาการป่วยของพระมเหสีก็ทรุดจนถึงขั้นไม่ได้สติ หมอหลวงบอกว่าหากฟื้นในสามวันก็อาจมีโอกาสรอด พระเจ้า ซุกจงรู้สึกผิดที่ไม่เคยดูแลพระมเหสีอย่างดี ขณะที่กึมยังต้องการไปหาว่านน้ำมาทำพวงมาลัยอวยพรให้พระมเหสี ก็ไปเจอป้ายกับตุ๊กตาที่ทำคุณไสยใส่พระมเหสี

พระมเหสีสิ้นพระชนม์ต่อหน้าพระเจ้าซุกจง เหล่าขุนนางจึงกราบทูลขอให้ตั้งอ๊กจองขึ้นเป็นพระมเหสี ขณะที่รัชทายาทกับกึมสนิทสนมกกันขึ้นทุกวัน รัชทายาทต้องการรู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคอะไร จึงแอบไปขโมยตัวยาแล้วมาเปิดตำราดู ด้านทงอีต้องการทำเพื่ออนาคตขององค์ชาย จึงได้ตัดสินใจไปพบกับอ๊กจอง

ทงอีบอกกับอ๊กจองว่าต้องการให้ลูกได้อิสระไม่ใช่อำนาจ แต่ก็ถูกอ๊กจองปฏิเสธ พระเจ้าซุกจงบอกกับทงอีว่า ถ้าทงอียอมรับ ก็จะถูกแต่งตั้งเป็นพระมเหสี แต่ทงอีก็ยังไม่ตัดสินใจ กึมกับรัชทายาทหนีออกไปเที่ยวเล่นนอกวัง รัชทายาทถูกเข้าใจผิดว่าเป็นขโมยจึงถูกจับ ทำให้ในวังต้องออกตามหา

อ๊กจองกับฮีเจใส่ความว่าการที่รัชทายาทออกไปจนเดือดร้อน เป็นความผิดของกึม ส่วนกึมเองเพื่อช่วยรัชทายาทจึงไปขอให้จูซิกกับยังดัลมาช่วย เมื่ออ๊กจองและขุนนางพยายามใส่ร้ายกึม รัชทายาทเองก็พยายามจะหาทางช่วยกึมให้ได้

หลังจากที่รัชทายาทได้บอกความจริงให้พระเจ้าซุกจงทราบว่าไม่สามารถมีทายาทได้ ทำให้พระเจ้าซุกจงเสียพระทัย ขณะที่เรื่องที่นายหญิงยูนเคยจ้างคนวางเพลิงบ้านพักทงอี และกำลังวางแผนจะหนี แต่ก็ถูกจับตัวได้ก่อน จางอ๊กจองจึงวางแผนที่จะฆ่าทงอีกับลูกอีกครั้ง

ทงอีเข้าช่วยลูก ทำให้ถูกฟันและหมดสติไป เมื่อพระเจ้าซุกจงได้ยินก็รีบมาหาและสั่งให้จับตัวคนร้ายเพื่อหาตัวบงการให้ได้ สุดท้ายจางฮีเจและอ๊กจองก็ถูกจับกุม

พระเจ้าซุกจงมีรับสั่งให้ประหารพระสนมฮีบินด้วยการกินยาพิษ คำขอร้องสุดท้ายของอ๊กจอง คือขอให้ทงอีช่วยคุ้มครองชีวิตของรัชทายาท การตายของอ๊กจองทำให้รัชทายาทเสียใจมาก ส่วนพระเจ้าซุกจงก็ทำตามความต้องการของทงอี คือคัดเลือก พระมเหสีคนใหม่ พระมเหสีอินวอน

เพื่อลบล้างข่าวลือในวังหลวง พระมเหสีอินวอนตัดสินใจให้องค์ชายยอนอินรีบอภิเษก ซึ่งตามกฎหลังอภิเษกแล้วต้องไปอยู่นอกวัง แต่เพื่อปกป้องกึม จึงขอให้ตนเองเป็นผู้คัดเลือกพระชายาให้ลูก

พระเจ้าซุกจงที่กำลังกลัดกลุ้มกับปัญหาของรัชทายาทกับองค์ชายยอนอิง ได้ยกเลิกราชกิจทั้งหมด หลังจากตรึกตรองอยู่นาน ก็ได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางที่ท้องพระโรง ประกาศว่าคนที่จะมาครองราชย์ต่อจากพระองค์คือรัชทายาทองค์นี้เท่านั้น อีกทั้งยังประกาศจะให้พระสนมซุกบินออกจากวัง

ชอนซูพยายามรวบรวมกองกำลัง เพื่อป้องกันทงอีจากแผนชั่วของมูยอล ขณะที่พระมเหสีอินวอนได้มาพบทงอี เพื่อถามว่าทงอีมีเจตนาอันใดแอบแฝง ขณะที่มูยอลก็รีบไปหาพระมเหสีเพื่อขอให้จัดการสั่งให้ทงอีออกจากวังในทันที โดยวางแผนชั่วร้ายซ้อนเอาไว้

เมื่อจางมูยอลถูกจับกุม ขุนนางที่ร่วมก่อการจึงคิดจะทำลายหลักฐานแต่ถูกพระเจ้าซุกจงกับซอโยงกีจับได้ สุดท้ายจึงถูกลงโทษประหารชีวิต ด้านพระเจ้าซุกจงก็ยังคิดจะสละราชบัลลังก์ แต่พระมเหสีอินวอนได้คิดวิธีรับองค์ชายยอนอิงเป็นลูกบุญธรรม เพื่อให้พระเจ้าซุกจงไม่ต้องทิ้งราชสมบัติ

แม้พระเจ้าซุกจงจะคัดค้านการออกไปอยู่นอกวังของทงอี แต่สุดท้ายก็ไม่อาจขัดความตั้งใจนี้ได้ ในวันเดินทางรัชทายาทได้มาบอกว่าจะช่วยดูแลองค์ชายยอนอิงให้เอง และเมื่อทงอีออกมา ก็ได้ช่วยเหลือชาวบ้านทั้งหลายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดตามชม ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 ทางช่อง 3 Family (ช่อง 13) ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558






















ข้อมูลจาก
