
มารู้จักกับเมีย 5 ศักดินาของไทยในสมัยโบราณ และคำพูดของพี่ขุนที่บอกว่า การะเกดคือเมียกลางเมือง แท้จริงแล้วนั้นคืออะไร มีคำตอบให้ที่นี่
ในละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส มีตอนหนึ่งที่ขุนศรีวิสารวาจา หรือพี่หมื่น พูดกับการะเกดว่า "คนเป็นเมียคือสมบัติของผัว ตัวออเจ้าเป็นเมียกลางเมืองของข้า ออเจ้าต้องเชื่อฟังข้า ต้องทำทุกอย่างที่ข้าสั่งให้ออเจ้าทำ ทรัพย์สมบัติของออเจ้า เป็นของข้า ออเจ้าทำความผิดใด ๆ ข้าจะตีโบยออเจ้าเท่าไร ข้าย่อมทำได้" จนเกิดเป็นคำถามที่ว่า เมียกลางเมืองนั้น คืออะไร


2. เมียกลางนอก หรือ เมียน้อย คือผู้หญิงที่ผู้ชายมาขอไปเป็นอนุภรรยา เลี้ยงดูเป็นเมียอีกคนในบ้าน และมีหน้ามีตาตามสมควร ซึ่งเมียแบบนี้จะมีสักกี่คนก็ได้
3. เมียกลางทาษี หรือ เมียทาษ เมียแบบนี้ เกิดจากการไปไถ่ตัวมา เพื่อรับใช้คนในบ้าน ไม่ยกเสมอเมียคนอื่น แต่ยังต้องทำงานบ้าน แต่ไม่หนักเท่าทาส

ในส่วนของกฎหมายตราสามดวง พระอัยการลักษณะมรดก ยังมีภรรยาอีก 2 ขั้นคือ
1. ภรรยาอันทรงพระกรุณาพระราชทานให้
2. ภรรยาอันทูลขอพระราชทานให้
ทั้งนี้ การแบ่งเมียออกเป็นลำดับขั้นนั้น ก็เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดทรัพย์มรดก เมื่อสามีถึงแก่ความตาย กำหนดเบี้ยปรับชายชู้ และกำหนดความรับผิดชอบของสามีทางหนี้สิน

อย่างไรก็ตาม การกระทำเหมือนภรรยาเป็นเหมือนสมบัติของสามี และการที่สามีสามารถยกหรือขายภรรยาให้ใครก็ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือยินยอม ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชปรารภว่า การกระทำแบบนี้ ทำเหมือนภรรยาเป็นเดรัจฉาน หรือเห็นว่า "ผู้หญิงเป็นควาย ผู้ชายเป็นคน" จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เจ้าจอมและพนักงานฝ่ายใน กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ กลับมาอยู่บ้านหรือมีสามีใหม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในสมัยสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้ทรงเป็นแบบอย่างของการมีพระมเหสีเพียงพระองค์เดียว ไม่มีพระสนมหรือเจ้าจอม และมีการตรากฎหมายพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายลักษณะผัวเมีย พ.ศ. 2473 ที่ให้มีการจดทะเบียนสมรส จดทะเบียนหย่า การรับรองบุตร และให้มีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายเพียงคนเดียว อันเป็นจุดเปลี่ยนของสังคมผัวเดียวหลายเมียอีกด้วย
ภาพจาก broadcastthaitv, ch3thailand
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก jhain-jen.blogspot, praewwedding, kingprajadhipokstudy