เจอดราม่ากระหน่ำเข้ามาเต็ม ๆ สำหรับละครเรื่อง ให้รักพิพากษา ทางช่อง 3 เมื่อสำนักงานอัยการ ออกมาร้องเรียนให้มีการเปลี่ยนบทโดยด่วน เนื่องจากละครนำเสนอการทำงานของอัยการบิดเบือนไปจากความจริง และมีอีกหลายฉากที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
อ่านข่าว : วิเคราะห์ ให้รักพิพากษา ทำไมบทถึงบ้ง อัยการชวนทนายมาร่วมทีม ส่ายหัวเลย
ล่าสุด (16 สิงหาคม 2564) สวพ.FM91 รายงานว่า ต้น ณฐนนท์ ชลลัมพี ผู้จัดละคร พร้อมด้วยผู้ประกาศข่าว หนุ่ม กรรชัย จากรายการ โหนกระแส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานอัยการ ได้หอบเอกสารเข้าพบ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เพื่อชี้แจ้งการผลิตละคร ณ อาคาร A สำนักอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
ต้น ณฐนนท์ เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตนคิดว่าด้วยความที่ประเทศไทยค่อนข้างมีเอกลักษณ์และมีความน่ารักแบบไทย ๆ ที่ลงตัว การมีผู้ใหญ่ให้ความสนใจและกรุณาปันเวลามาใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ แม้ว่าไม่ใช่วาระแห่งชาติ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ตนเป็นเด็ก ทำได้ดีที่สุดก็คือเข้ามาพบอัยการด้วยตัวเอง เพื่อเรียนรู้และมีโอกาสได้ชี้แจงเป็นการส่วนตัว การทำงานแบบมืออาชีพทุกคำติเพื่อก่อ ทำให้ตนมีไฟในการทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องได้มากกว่าเสีย
แนวทางการผลิตละครหลังจากนี้
เตรียมตัวปรับเปลี่ยนเนื้อหา แก้ไข และเพิ่มเติมส่วนที่เหลืออย่างไร ?
ทำการบ้านและค้นคว้าเกี่ยวกับละครมาอย่างไรบ้าง ?
กระแสข่าวที่ออกมาได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ?
ละครแนวนี้แม้เป็นเรื่องแรกสำหรับผู้จัด แต่ในต่างประเทศทำกันมาเยอะแล้ว CIA, ตำรวจ, ทหาร, นักการเมือง มันเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาเชิงสร้างความสนุกสนาน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าโจมตีวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง แต่มันบอกแค่เพียงว่าทุกอย่างมีขาวมีดำ มีทั้งคนดีคนไม่ไม่ดีมันก็เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ทางส่วนที่ปรึกษาของละครอย่าง ทนายนิด้า และทนายเจมส์ ได้ออกมาชี้แจ้งเบื้องต้นแล้วว่า ทางบทละครอาจมีการเพิ่มเติมสีสันของละคร ไม่ใช่จริงจังเหมือนสารคดี ทางผู้จัดวางแนวทางการผลิตละครออกมาตั้งแต่แรกแล้วว่าตั้งใจจะให้ละครออกมาในรูปแบบไหน มีที่ปรึกษาทางกฏหมาย เจ้าหน้าที่ศาล และอีกหลายวิชาชีพที่เชิญมาเป็นที่ปรึกษา ไม่ได้คิดเองทำเองโดยพละการ
ฝากแฟน ๆ เปิดใจดูละคร
อยากสร้างรอยยิ้มให้แฟนละครในช่วงวิกฤตตามที่เรียนไปแต่ต้น อย่าคิดมากจนเกินไป อยากให้เป็นกำลังใจให้นักแสดง ผู้จัด และช่อง เพราะพวกเขาทำงานกันอย่างเติมที่ด้วยความทุ่มเท เนื่องจากมันยากมากจริง ๆ ด้วยมิติของเนื้อหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม
ดาราทุกคนท่องจำบทกันเป็นสิบ ๆ หน้า เพื่อให้ออกมาดีที่สุดและสนุกที่สุดในช่วงเวลาที่สั้นมาก ๆ ต่อตอน ส่วนตัวผู้จัดสัญญาว่าจะไม่ท้อ และจะนําทุกประเด็นที่คนติเพื่อก่อไปประกอบการพิจารณา เพื่อให้ละครเรื่องต่อไปออกมาสมบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป มีความใฝ่ฝันว่าถ้ากระแสมาดีขนาดนี้ ดูแล้วเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ก็ยินดีที่จะทำต่อไป ส่วนสารคดีคงไม่ทำแน่