




สุภาพบุรุษ... โตโน่ (ภาพยนตร์บันเทิง)
Cover Story เรื่อง : MING
ต้องเล่าที่มาที่ไปก่อนค่ะ ว่าละครเรื่อง เรือนแพ ที่กำลังออกอากาศอยู่นั้น เป็นละครที่ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เล่นเป็นเรื่องแรก แม้ก่อนหน้านี้จะได้ชมผลงาน ข้ามเวลาหารัก จบกันไปแล้ว หากการถ่ายทำนั้น ละครเรื่อง เรือนแพ คือเรื่องที่โตโน่ถ่ายไว้ก่อน ซึ่งเมื่อภาพยนตร์บันเทิงได้พูดคุยกับโตโน่ เจ้าตัวบอกว่า นอกจากความยินดีที่รู้ว่าตนเองได้รับบท แก้ว ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่หมายตาไว้แล้วนั้น ยังออกตัวอีกว่า การแสดงละครเรื่องนี้ทำให้ได้ซาบซึ้งไปกับนิยามมิตรภาพของคำว่าเพื่อนรัก ...ซึ่งชีวิตจริงโตโน่ก็มีเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กที่คบกันมาแบบนี้เช่นกัน...

โตโน่ : ต้อง ดีใจอยู่แล้วครับ ตั้งแต่รู้ว่าได้เล่นละครเรื่องนี้ โดยเฉพาะเมื่อได้รับบท แก้ว คือฟังจากเรื่องราวผมชอบคาแรกเตอร์ของตัวละครตัวนี้อยู่แล้ว คือเขามีความเป็นมนุษย์ที่ทำอะไรตามความรู้สึก สัญชาตญาณของตัวเอง เป็นตัวละครที่อยากจะเกลียดนะ แต่เขาก็มีความน่ารักของตัวละครตัวนี้ คือต่อให้ทำเรื่องเลว ก็มีความน่ารัก เพราะพื้นฐานเขาทำเลวแต่ไม่ได้อยากทำ

โตโน่ : อย่าง บางเหตุการณ์ ซีนที่ต้องไปชิงเจ้าสาว คือเป็นงานแต่งงานของเจ้าพ่อ คนมีอิทธิพล คือจะไปคุยไปของเขาดี ๆ ไม่ได้ เราก็ต้องไปฉุดเขามาพยายามพาหนี ที่ทำอย่างนั้นเพราะผู้หญิงเขารักเรานะ แล้วถ้าเขาไม่ได้แต่งกับเรา เขาจะฆ่าตัวตาย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไปฉุดเขามาอยู่กับเราให้ได้ แล้วเราก็รักเขามากด้วย ขาดเขาไม่ได้ พอคุยกันไม่รู้เรื่อง ในฉากลูกเจ้าพ่อต้องควักปืนยิงเรา แล้วตอนยิงเนี่ย ลูกเจ้าพ่อเขาดันไม่มีลูกปืน เรามีลูก กลายเป็นไปทำลูกเขาตายอีก เราเลยต้องกลายเป็นโจร คือเรื่องราวแก้วไม่ได้ต้องการเป็นคนเลวเลย แต่เหตุการณ์บังคับให้เป็นไป

โตโน่ : ผม มองว่าละครเรื่อง “เรืองแพ” ในการทำครั้งนี้ไม่กดดันนะครับ เพราะว่าความละเอียดของทีมงานที่ทำ ทำให้ละครออกมาสวยแล้วเรื่องราวก็อาจจะต่างกับเวอร์ชั่นอื่น ๆ มีตัวละครเพิ่มมาด้วย อย่าง นกเอี้ยง อัปสร ครูปลิว นี่คือการเพิ่มสีสันของละครให้มากขึ้น อีกอย่างผมมองในเรื่องของความรักของเพื่อนทั้ง 3 คน ที่ถ่ายทอดออกมา ส่วนการแสดงทุกคนก็ตั้งใจ ผมคิดว่าไม่น่าจะกดดันครับ

โตโน่ : อย่าง ริน ที่ กัน รับบทเนี่ย เขาเหมือนกับน้องเล็ก คือเขาค่อนข้างเป็นศิลปิน น่ารัก ถ้าจะเทียบกับความรุนแรงที่ แก้ว มี เขาจะหัวอ่อนกว่ามาก เราจะซักจูงเขาไปในทางที่ตื้น ๆ ได้ง่าย (หัวเราะ) เพราะเขาจะตามเรา ส่วน เจน ที่ สน รับบท เขาจะเป็นแบบคนตรงมาก แล้วก็ทำทุกอย่างด้วยความยุติธรรม เราเนี่ยจะออกดื้อ ๆ กว่าคนอื่น จะมีมุมที่แบบเลว ๆ มากกว่า แต่แก้วจะรักเพื่อนมาก

โตโน่ : ความ รักของคำว่าเพื่อน สำหรับผม ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงามนะครับ ผมเองก็มีเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แล้วความรักของเพื่อนเนี่ยล่ะ คือความมั่นใจของมิตรภาพที่แท้จริง ซึ่งเรื่องแบบนี้ ยังมีอยู่ในสังคม แม้ว่ามันจะหายากก็เถอะ ถึงจะมีเรื่ององค์ประกอบต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างชื่อเสียง เงินทอง อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่ความรักที่เพื่อมีต่อกันผมมองว่ายังไม่เปลี่ยน

โตโน่ : ผม ก็มีบ้างครับ บางอารมณ์ แต่เราไม่ใช่คนชอบความรุนแรงนะ แต่ผมจะออกแนวต้นคิด ชอบชวนเพื่อนไปทำกิจกรรม ไปเที่ยวอะไรแบบนี้ อย่างเวลาถ้าเพื่อนมีเรื่อง ส่วนใหญ่ผมจะอยู่ตรงกลาง คือคนเจรจา หรือไกล่เกลี่ย จะไม่เปิดเองครับ (หัวเราะ)

โตโน่ : เนี่ย เป็นเรื่องที่ยากมากเลยนะ แล้วก็ขัดกับความรู้สึกของเรามาก เพราะว่าชีวิตจริงเรารักเพื่อนมาก แต่ในเรื่องเนี่ยเพื่อน 3 คนต้องมาชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ถ้าให้ผมเลือกเองคงยาก ก็ต้องมองล่ะครับว่า ถ้าเราคบกับผู้หญิงมาก่อนแล้วเพื่อนมาขอเนี่ย ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ให้ครับ แต่ถ้าผู้หญิงเป็นแฟน เพื่อนล่ะก็ ผมไม่เคยคิดยุ่ง ต่อให้ชอบก็ไม่ยุ่ง ผมจะถือเรื่องแบบนี้มาก

โตโน่ : ไม่ น่าจะใช่ แก้ว ครับ (หัวเราะ) คือยุคนี้คนคงไม่เลือกแก้ว แน่ ๆ เลย น่าจะเป็น ริน หรือไม่ก็ เจน เพราะเจนก็ฐานะมั่นคง รินก็มีเสน่ห์ร้องเพลงเพราะ สมัยนี้สาว ๆ บางคนชอบนักร้อง เลยคิดว่าสาว ๆ อาจจะไม่ชอบคนที่ทำอะไรก็อ้างใจเป็นอย่างเดียว แหม...เดี๋ยวนี้เอาน้ำใจไปเติมน้ำมันก็คงไม่ได้อะนะ (หัวเราะ) คือสมัยนี้คงต้องมีหลาย ๆ มุมรวมกัน แต่ถ้าในยุคนี้ มีสาวที่ปลื้มคนแบบแก้ว ที่รักกันด้วยใจจริง ๆ ก็ต้องเรียกว่าเป็นความรักที่โชคดีนะครับ แล้ว แก้ว ในเรื่องเนี่ย ดูกุ๊ย ดูจนมากเลย คงไม่แปลกถ้าเป็นชีวิตจริงสาว ๆ จะไม่เลือกมันอะครับ

โตโน่ : กับ บทนักมวยเนี่ย หนักมาก เพราะตอนถ่ายฉากนั้นผมเล่นละครเรื่อง “ข้ามเวลาหารัก” ควบไปด้วย ช่วยนั้นห่างจากฟิตเนส พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ตัวเองก็กังวลคือ กลัวว่าเราดูไม่ฟิต แต่ผมเองเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว ก็พอมีพื้นฐานมาบ้าง แต่อย่างกล้ามเนื้อเนี่ยจะให้มาฟิตแบบกล้ามแขนเป็นพี่ปูก็ไม่ไหวนะครับ (หัวเราะ) เพราะเราต้องเล่นเป็นนักมวยแล้วนักมวยแท้ ๆ เนี่ยจะเป็นกล้ามตามธรรมชาติ ไม่ใช่กล้ามแบบพี่ปู ผมก็เลยคิดว่ากล้ามที่ผมมีเนี่ยล่ะ เวิร์กที่สุดแล้ว

โตโน่ : เฉย ๆ ครับ คือผมว่าการที่พระเอกจะถอดเสื้อโชว์อะไรเนี่ยมันมีที่มาที่ไป ไม่ใช่แบบจู่ ๆ ลุกขึ้นมาถอด มาโชว์อะไรแบบนั้น แล้วเรื่องนี้เป็นนักมวยไม่ถอดเสื้อก็ไปตีกอล์ฟดีกว่า อย่างคิดง่าย ๆ คือผู้ชายอยู่ในบ้านกับเพื่อนสนิท ไม่มีใครแต่งตัวเรียบร้อยหรอกครับ คงไม่ใส่สูทผูกไทอยู่บ้านแน่ครับ ผมเองก็คงจะทำตัวตามสบายใส่อะไรก็ได้ ละครก็เหมือนกันครับ เวลาผู้ชายอยู่ด้วยกันไม่ค่อยเรียบร้อยหรอก (หัวเราะ)

โตโน่ : ต้องบอก ก่อนเลยว่า ผู้กำกับฯ เก่งครับ คือเก่งในแบบที่ละเอียด ทำให้มุมมองในการเล่นละครของเรา ไม่ใช่แบบโกรธคือโกรธ โกรธก็มีหลายด้าน บางทีอารมณ์โกรธก็ต้องมองว่ามาจากอะไร รักมากก็เลยโกรธมาก สีหน้าการแสดงก็ต้องออกมาอีกอย่าง ตัวผมเองกับละครเรื่องนี้ ทำให้เราได้ประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น และการทำความเข้าใจของตัวละคร ที่บทไม่ได้เขียนเอาไว้ ต้องจินตนาการเพิ่ม ร่วมกับการพูดคุยกับผู้กำกับฯ ทำให้เรารู้จักการตีบทมากขึ้น คือตัวผมไม่ใช่คนเก่ง ถ่ายละครเรื่องนี้จริงๆ คือเรื่องแรกก็ต้องค่อย ๆ เรียนรู้ การเรียนรู้ของผมคือการทำจริง ไม่สามารถเรียนล่วงหน้ามาได้ มาเรียนเอาที่กอง ดังนั้นการทำงานละครเรื่องนี้จึงสอนผมเยอะมาก

โตโน่ : ดีใจ กับกระแสตอบรับมาก ๆ ครับ เพราคนพูดถึงเยอะมาก ความคาดหวังทุกอย่าง กับแฟน ๆ เนี่ยทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน แล้วตัวผมก็เต็มที่กับการทำงาน แล้วงานแบบนี้ นอกจากทำแล้วได้เงิน คือทำแล้วทำให้ทุกคนดูมีความสุข เมื่อได้ชมผลงานเรานั่นยิ่งทำให้เราต้องเต็มที่ถึงจะเหนื่อยหน่อยก็ต้อง ตั้งใจทำครับ

โตโน่ : ผม อยากเป็นนักแสดงมืออาชีพที่คนเขายอมรับ วันนี้ยังอีกไกลครับ ผมไม่เคยมองนะครับว่าผมจะไปอยู่จุดไหน คือทำทุกวันให้ดีที่สุด อย่างมองวันนี้ย้อนกลับไปวันแรกที่ผมเข้าวงการก็ต่างกันมาก ผมมองว่าการที่เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงเนี่ยมันหยุดไม่ได้จริง ๆ งานที่เราทำเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวัน ทุกวันคือการเรียนรู้ มันไม่ใช่การแสดงเป็นตัวเรา ต้องไปแสดงเป็นคนอื่น มันยากอย่างนักอเสแดงมืออาชีพ คือเขาเป็นในจุด ๆ นั้นจริง ๆ มันอธิบายยากนะครับ คือเขารับบทปุ๊บ เขาสามารถตีโจทย์ ตีการแสดงได้เลย แต่กับตัวผมเนี่ย ผมมองว่าผมเป็นคนธรรมดา ที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนรู้จัก มีคนเข้ามาขอสัมภาษณ์ ขอถ่ายรูป แต่กับโอกาสที่ผมได้รับมาแล้วก็ตัวของ ผมเองที่จะทำให้คนมารู้จักผมได้ และรู้ว่ามันจริงแค่ไหน เกี่ยวกับการทำงานของผม ส่วนเรื่องนิสัยส่วนตัวของผม ก็เป็นอีกจุดที่คนจะค่อย ๆ เรียนรู้กันไปพร้อมกัน

โตโน่ : อธิบาย ยากเหมือนกันนะครับ อยากให้คนมารู้จักตัวตนผมไหม ไม่ดีกว่าครับ แต่อยากให้มองว่า ทุกครั้งที่ผมออกรายการ ให้สัมภาษณ์นั่นคือตัวตนของผมทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องมาพูดหรืออธิบายให้เข้าใจว่าตัวผมเป็นอย่างไร ตัวตนผมเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ผมอาจจะเครียดในเรื่องงานมากกว่าเรื่องอื่น เพราะผมมองว่าเมื่อมีโอกาสเข้ามา ผมต้องทำให้ได้ดีที่สุดเท่านั้นเอง

โตโน่ : ฝาก ละครไว้ด้วยนะครับ คือละครเรื่องนี้เป็นความตั้งใจของทุกคนที่ทำงาน ทั้งทีมงาน และนักแสดง เรียกว่าตั้งใจกันมาก ๆ เลย ใส่ใจกับผลงาน อยากให้คนประทับใจ อยากให้คนสนุกไปกับละครที่เป็นบทประพันธ์อมตะแบบนี้ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

หนังสือภาพยนตร์บันเทิง ปีที่ 37 วันที่ 13-19 กรกฎาคม 2554