เรื่องย่อละคร ลูกไม้ลายโขน


ลูกไม้ลายโขน ละครลูกไม้ลายโขน


ละครลูกไม้ลายโขน บทประพันธ์โดย : วิชญา
ละครลูกไม้ลายโขน บทโทรทัศน์โดย : วิชญา
ละครลูกไม้ลายโขน กำกับการแสดงโดย : เจ นันท์รุจา
ละครลูกไม้ลายโขน ผลิตโดย : บริษัท ไอพีเอ็มโปรดักชั่น จำกัด ร่วมกับ บริษัท แทนกายแมนเนจเม้นท์ จำกัด
ละครลูกไม้ลายโขน ควบคุมการผลิตโดย : ทรงธรรม พลอยกาบทอง
ละครลูกไม้ลายโขน อำนวยการผลิตโดย : มานพ โตการค้า
ละครลูกไม้ลายโขน ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 14.30-15.00 น. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ไอพีเอ็ม


 
เรื่องย่อลูกไม้ลายโขน

          สินสมุทร หรือ สิน (ท๊อป มนัส ท๊อปกันส์) เด็กหนุ่มผู้มีใจรักทางด้านโขน แม้เนื้อตัวจะเต็มไปด้วยรอยสักเพราะต้องการประชด พลเอกณรงค์ (ต้น พิทักษ์ ศัลย์วิวรรธน์) พ่อที่ต้องการให้เขาเดินเส้นทางของอาชีพอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การเล่นโขน

         สินไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงกีดกันเขาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโขน เรื่องนี้น่าจะมาจากข่าวลือที่ว่า เบญจา (ต้น นฤมล ทองมอญ) แม่ของเขาหนีตาม สมชาติ (เล็ก เจษฎา รุ่งสาคร) ครูโขนชื่อดังในอดีต และไม่เคยได้ยินข่าวคราวอีกเลย ตลอดระยะเวลาที่เติบโตมา สินจำได้เพียงแต่รอยกอดบาง ๆ ของแม่ในคืนวันฝนตกหนักในวันที่เขาอายุได้สี่ขวบ เขามีเพียง น้าอนงค์  (ปอนด์ รุ่งรัตน์ ดวงขวัญ) ที่คอยเลี้ยงดูเขามาโดยตลอดนั่นเอง

         สินมีฝีมือทางด้านร่ายรำโขน เพราะได้ฝึกมาจากบ้านโขนครูขิม (หนิง จิตติมา สิงห์เดช) ครูสาวผู้มีใจรักทางด้านโขน สินมีเพื่อนสนิทชื่อ โอบเอื้อ (เธโอ อคิราห์ กางมูล) ที่เรียนมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล คอยเป็นกำลังใจให้เสมอแต่ทุกครั้งที่เขาไปคัดเลือกตัวแสดงเพื่อเล่นโขน แม้ฝีมือเขาจะดีแค่ไหน แต่ถูกปฏิเสธเพราะรอยสักของเขานั่นเอง

         เขาแปลกใจว่าทำไมคนที่มีรอยสักเต็มตัวทำไมถึงจะเล่นโขนไม่ได้ ครูขิมให้ความกระจ่างกับเขาว่ารอยสักของเขาไม่เป็นอุปสรรคของการเล่นโขนแต่อย่างใด สินมีศัตรูคู่อาฆาตชื่อ ปรานต์ ปรานต์ตะวัน (แม็ค ปภพ สุวรรณวิศลกิจ) นักเรียนโขนฝีมือดีแห่งบ้านโขนครูขิม สาเหตุที่หมางใจกัน เพราะมาจากเรื่อง นวลนารา (แอน ธิดารัตน์ มากศรี) คนรักของปรานต์นั่นเอง เพราะปรานต์เข้าใจผิดคิดว่าสินนั้นจะมาแย่งนวลนาราไปจากชีวิตของเขา ทำให้ทั้งสินและเอื้อเกิดการเขม่นกับปรานต์ และพยัคฆ์ (โอเลี้ยง ศักดิ์นรินทร์ ปิ่นนิกร) เพื่อนสนิทของปรานต์ที่ดูเหมือนเป็นลูกสมุนจนมีเรื่องชกต่อยกันจนบาดเจ็บที่บ้านเรือนโขนครูขิม ทำให้ครูขิมถึงกับเอ่ยปากบอกว่าให้ปรานต์ขอโทษสิน ปรานต์ยอมขอโทษแต่ได้ตะโกนใส่หน้าสินว่า "จำไว้นะ ข้าขอโทษเอ็งได้ แต่ในใจข้าขอพยาบาทเอ็งไปจนวันตาย ข้ากับเอ็งเป็นศัตรูกันนับตั้งแต่วันนี้"

         วันนั้น สิน พาร่างสะบักสะบอมของเขากับ โอบเอื้อ กลับบ้านพัก ทันทีที่ถึงบ้าน เอื้อก็ได้เจอกับ ทองเอก (เพื่อนญ์ กวี วงศ์จันทรา) พี่ชายของเขาที่ไปเรียนปริญญาโททางด้านดนตรีและศิลปะที่ต่างประเทศ เขากลับมาเมืองไทยเพื่อจะหาข้อมูลในการทำวิทยานิพนธ์ ทองเอกตกใจมากที่เห็นโอบเอื้อน้องชายของเขาบาดเจ็บ เขาตรงดิ่งไปที่บ้านครูขิม เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่เมื่อทองเอกได้เจอกับครูขิม ต่างคนต่างมีความรู้สึกแปลก ๆ ต่อกัน และรู้สึกพิเศษต่อกัน แม้การเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่จะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่ในใจของทั้งคู่กลับอ่อนไหวยวบ

         คืนนั้นเองที่ทองเอกคิดว่าเขาจะทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "โขนกับวิถีความเป็นไทย" ทำให้ทองเอกมาที่บ้านครูขิมบ่อย ๆ และก่อร่างสร้าง ต้นไม้แห่งความรัก ณ ที่นี่เอง ทองเอกสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับครูขิม เพราะทองเอกนอกจากจะเลอเลิศทางด้านดนตรีแล้ว เขายังเก่งทางด้านเต้น B-Boy อีกด้วย เขาสามารถประยุกต์ ท่าโขนกับท่าเต้น B-Boy ให้เข้ากันได้อย่างน่ามหัศจรรย์

          ในขณะที่ต้นรักของ ทองเอกกับครูขิมงดงาม แต่ความสัมพันธ์ของนวลนารากับปรานต์แย่ลงทุกวัน เพราะปรานต์เป็นคนเจ้าชู้ หันไปจีบวรรณนรี (ฟ้า พิมอัปสร กุหลาบซ้อน) เพื่อนของนวลนารา ทำให้นวลนาราช้ำใจมาก ๆ โดยตลอดเวลาที่นวลนาราช้ำใจ เธอมีเพียงแต่ เยาวเรศ (ทามามิ กัญญาณัฐ ฮายาชิ) เพื่อนสนิทที่มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา เป็นกำลังใจให้เสมอรวมไปถึงสินที่คอยให้กำลังใจนวลนาราแบบห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ เพราะคดีพิพาทของสินกับปรานต์เริ่มหนักข้อทุกวัน ทำให้ครูขิมจึงให้สินไปเรียนโขนกับ ครูสมชาติ ที่ตาบอดข้างหนึ่ง โดยที่สินไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ครูสมชาตินี่เองที่ตกเป็นข่าวลือว่า เป็นชู้กับแม่ของเขา โดยมีนวลนาราขอตามไปด้วย เพราะเธอทนไม่ได้กับภาพบาดตาบาดใจของปรานต์กับวรรณรีได้นั่นเอง

          ระหว่างที่เรียน สินสงสัยอยู่ว่าครูสมชาติคนนี้จะใช่กับคนเดียวกับที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นชู้กับแม่ของเขาหรือไม่ เขาจึงไปถามน้าอนงค์ น้าอนงค์ตกใจ แต่ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่วันรุ่งขึ้น น้าอนงค์ได้ไปที่บ้านครูสมชาติ ทันทีที่น้าอนงค์เจอกับครูสมชาติ ทั้งสองต่างตกใจเพราะเรื่องแผลใจแห่งอดีต กำลังจะกลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ทั้งคู่ไม่ต้องการสะกิดแผลใจนั้น เพราะนอกจากจะร่วมมือกันสนับสนุนสินให้ถึงความฝันที่สวยงาม ครูสมชาติ แม้จะมีตาที่มองเห็นเพียงข้างเดียว ก็เพียรพยายามที่จะถ่ายทอดฝีมือการเล่นโขนให้กับสิน เพราะการแสดงคัดเลือกตัวของ คณะโขนเจ้าพระยา เป็นโขนที่ใคร ๆ ก็อยากร่วมแสดงด้วยและอยากจะเล่นเป็นตัวเอก

          ปรานต์ หมายมั่นปั้นมือมากว่าเขาจะได้รับบทพระราม แต่ความรู้ไปถึงหูของปรานต์ว่า สินก็จะเข้าคัดเลือกบทนี้กับเขาด้วยเช่นกันพยัคฆ์ได้ไปสืบทราบมาว่า ครูสมชาติที่พ่อของสินเกลียดเข้าไส้ เป็นครูฝึกโขนให้สิน เขาจึงนำความนี้ไปบอกกับปรานต์ ปรานต์เดินทางไปที่บ้านของครูสมชาติทันที เมื่อได้เห็นครูสมชาติตาบอดข้างหนึ่ง ปรานต์ถึงกับหัวเราะเยาะครูสมชาติว่าตาบอดแบบนี้จะสอนโขนได้อย่างไร ปรานต์ถูกครูสมชาติตอกกลับด้วยคำพูดนิ่ม ๆ ว่า "ถึงตาผมจะบอด แต่ใจผมไม่บอดเหมือนคนบางคน" สร้างความคับแค้นใจให้ปรานต์มาก ๆ

         วันรุ่งขึ้นขณะที่สินกำลังฝึกซ้อมโขนกับครูสมชาติ โดยมีน้าอนงค์ นวลนารา อยู่ดูการซ้อมนั้น พลเอกณรงค์ก็เดินทางมาถึง เมื่อเขาเห็นหน้าครูสมชาติก็จะเกิดการวางมวยกัน โดยมีน้าอนงค์คอยห้ามปราม "ไอ้สิน รู้ไหมว่าแกกำลังฝึกซ้อมโขนกับคนที่เป็นชู้กับแม่ของแก คนที่ทำให้แม่แกต้องทิ้งแกไป แล้วแกยังไปญาติดีกับเขาอีก" พลเอกณรงค์พูดด้วยน้ำเสียงอันเจ็บปวด แต่เจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อสินตอบกลับคนเป็นพ่อว่า "เรื่องราวเหล่านั้นเป็นข้อสงสัย ว่าครูสมชาติจะเป็นชู้กับแม่ผมจริงหรือไม่ แต่ถึงจะเป็นจริงหรือไม่จริง พ่อรู้ไหมครับว่าครูสมชาติเขาสนับสนุนความฝันของผม ให้กำลังใจผม ให้ผมสู้กับชีวิต แล้วพ่อล่ะครับ พ่อเคยให้อะไรกับผมบ้าง แม้แต่วันที่ผมอยากให้พ่อกอดผม พ่อก็ไม่เคยกอดผมเลย" "อย่าพูดอย่างนั้นสิ ลูกสิน" เสียงทรงพลังอำนาจของผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในบริเวณบ้าน

         "พี่เบญจา" เสียงครูสมชาติร้องบอก "คุณเบญจา" เสียงพลเอกณรงค์และน้าอนงค์ร้องบอกด้วยความตกใจพร้อม ๆ กัน แล้วความจริงในอดีต ปมแห่งบาดแผลก็ได้ถูกเปิดเผย จริง ๆ แล้ว ครูสมชาตินั้นเป็น น้องชายคนละแม่ของเบญจา แม่ของสินนั่นเอง

          น้าอนงค์เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทมากของเบญจาและครูสมชาติกับน้าอนงค์เคยรักกันมาก่อน แต่พบอุปสรรค เพราะพ่อแม่ของน้าอนงค์ไม่ชอบคนเต้นกินรำกิน เมื่อความพยายามครั้งสุดท้ายของครูสมชาติและน้าอนงค์ที่จะครองรักกันไม่เป็นผลสำเร็จ ครูสมชาติจึงกินเหล้าเมาหยำเป และไปมีเรื่องกับจิ๊กโก๋ จนถูกรุมกระทืบจนตาบอด หนทางเดียวที่จะแก้ไขให้ตากลับมาสภาพดังเดิมได้ ก็คือผ่าตัดเปลี่ยนดวงตา ซึ่งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เบญจาพยายามขอเงินจากพลเอกณรงค์ แต่ไม่ยอมบอกว่าจะเอาไปทำอะไร พลเอกณรงค์ไม่ให้เงินก้อนใหญ่นั้น เบญจาจึงตัดสินใจไปทำงานร้านอาหารของเพื่อนที่อเมริกา เพื่อที่จะเก็บเงินมาผ่าตัดตาให้น้องชาย

         "แต่มันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะครับพี่เบญ เพราะหมอบอกว่าผมหมดสิทธิ์ที่จะมองเห็นด้วยตาข้างซ้ายอีกต่อไปแล้ว มันถูกทำลายจนเกินเยียวยา" ครูสมชาติบอกกับพี่สาวก่อนที่เธอจะตัดสินใจไปอเมริกา แต่เมื่อเธอไม่สามารถรับกับนิสัยของพลเอกณรงค์ได้ เธอจึงไปจากเมืองไทยอย่างไร้ร่องรอย โดยมีกระแสข่าวลือว่า เมียนายพลหนีตามพระเอกโขนชื่อดังไป พลเอกณรงค์เมื่อได้รู้ความจริง เขายิ่งเจ็บปวด เขาบอกกับเบญจาว่า

         "เพราะเหตุผลนี้นี่ล่ะ ที่ทำให้ฉันไม่กล้ารักลูกมาก ไม่เคยใส่ใจลูก ไม่เคยให้ความอบอุ่นลูกตามที่มันต้องการ ฉันนอกจากจะเป็นผัวที่เลวแล้ว ยังเป็นพ่อที่เลวมากใช่ไหม คุณเบญ"

          "ไม่ครับ พ่อไม่ใช่เป็นคนเลว พ่อมีเหตุผลของพ่อ ผมก็มีเหตุผลของผม ผมรักพ่อครับ ได้ยินไหมครับ ผมรักพ่อ"

          ภาพที่ปรากฏ เป็นภาพที่พ่อคนหนึ่งกอดลูกชายคนหนึ่ง ต่างคนต่างร่ำไห้ เป็นอ้อมกอดที่ทั้งคนเป็นพ่อและลูกต่างรอคอยมานานคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ต่างเช็ดน้ำตา ด้วยความซาบซึ้ง เบญจาเดินเข้าไปหาสินบอกว่า

          "ขอแม่กอดลูกให้ชื่นใจหน่อยนะ หลังจากไม่ได้กอดมายี่สิบปี" ภาพแรกที่เห็น เป็นภาพที่แม่กอดลูก แล้วพ่อก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาประคองกอด เป็นภาพสามคนพ่อแม่ลูกที่กอดกันอย่างอบอุ่นที่สุดในโลกเป็นวันที่สินรอคอยวันนี้มานานแสนนานแล้ว ปรานต์ถึงกับขบกรามแน่น เมื่อรู้ว่าแผนทำลายสินกลายเป็นเรื่องดีแบบไม่คาดคิดสำหรับสิน เขาคิดหนทางที่จะกำจัดสินไม่ได้เลย ยิ่งใกล้วันที่จะคัดเลือกแล้ว ปรานต์จึงตัดสินใจสู้กับสินแบบลูกผู้ชาย ด้วยการท้าประลองลีลาโขนกัน

          วันประลองโขน ฝนตั้งเค้ามาอย่างไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน ตามด้วยพายุพัด ฝนตกหนัก แต่สินและปรานต์ไม่ได้หวั่น ในใจของปรานต์คิดจะเอาแต่ชัยชนะ แต่ในใจของสิน อยากจะแสดงให้ปรานต์เห็นว่าเรื่องของการเล่นโขนนั้นเป็นเรื่องของศิลปะชั้นสูงและเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมมากกว่าคำว่าแพ้-ชนะ

          "กฎของการประลองครั้งนี้ ถ้าใครแพ้จะต้องถอนตัวออกจากการคัดเลือก โขนเจ้าพระยา ยอมรับในข้อตกลงใช่ไหม" ปรานต์ประกาศท่ามกลางเจตนารมณ์ของการแข่งขันท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำอย่างรุนแรง


          อะไรจะเกิดขึ้นกับการประลองโขนท่ามกลางสายฝนตกหนักในครั้งนี้ โดยมีเรื่องราว ความรัก ความแค้น ความเสียสละ ความตายเข้ามาเป็นเดิมพันของหลากหลายชีวิตที่ล้วนเกี่ยวข้องกับ โขน

           บทสรุปโขนในลูกไม้ลายโขน นาฏกรรมของไทยชั้นสูงจะมีบทสรุปอย่างไร  ท่ามกลางกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลง พระอาทิตย์ที่ขึ้นทางโลกตะวันออกแล้วไปตกที่โลกตะวันตก และหัวใจคนนับวันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เวทีของโขนเป็นเวทีที่ทรงเกียรติและเป็นศิลปะที่มีครู ครูที่มีเหตุผลในความคิดอย่างลึกซึ้ง และลูกไม้ลายโขนจะสานต่อสิ่งที่ครูได้ทิ้งไว้ให้ได้อย่างไร

           ศิลปะประจำชาติจะสูญหายไปเพราะ ลูกไม้ลายโขน หรือไม่ ท่ามกลางกระแสโลกที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นี่คือเรื่องราวความเข้มข้นของการเดินทางของคนรุ่นใหม่ ที่ได้ขึ้นชื่อว่า ลูกไม้ลายโขน ว่าพวกเขาจะสามารถรักษามรดกทางวัฒนธรรมโขนนี้ได้อย่างไร ติดตามชม ละครลูกไม้ลายโขน ได้ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 14.30-15.00 น. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ไอพีเอ็ม


รายชื่อนักแสดงนำ ใน
ละครลูกไม้ลายโขน

มนัส  ท๊อปกันส์  รับบท สินสมุทร   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
ธิดารัตน์  มากศรี  รับบท  นวลนารา   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
ปภพ  สุวรรณวิศลกิจ  รับบท  ปรานต์ตะวัน   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
อคิราห์  กางมูล  รับบท  โอบเอื้อ   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
กัญญาณัฐ  ฮายาชิ  รับบท  เยาวเรศ   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
กวี  วงศ์จันทรา  รับบท  ทองเอก   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
จิตติมา  สิงห์เดช  รับบท  ครูขิม   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
พิมพ์อัปสร  กุหลาบซ้อน  รับบท  วรรณนรี   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
ศักดิ์นรินทร์  ปิ่นนิกร  รับบท  พยัคฆ์   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
รุ่งรัตน์  ดวงขวัญ  รับบท  น้าอนงค์   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
เจษฎา  รุ่งสาคร  รับบท  ครูสมชาติ   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
พิทักษ์  ศัลย์วิวรรธน์    รับบท  พลเอกณรงค์   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
นฤมล  ทองมอญ  รับบท  เบญจา   ใน ละครลูกไม้ลายโขน
กฤติณ  จิกิตศิลปิน  รับบท  เจ๊หวานเย็น   ใน ละครลูกไม้ลายโขน









เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องย่อละคร ลูกไม้ลายโขน อัปเดตล่าสุด 30 เมษายน 2557 เวลา 19:49:19
TOP
x close